
ป.ป.ง.สหรัฐสอบ CEO Binance กรณีสงสัยปล่อยอาชญากรฟอกเงิน ผ่านระบบซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดัง
แผนกป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินสหรัฐฯ ส่งหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรถึง Binance เมื่อปี 2020 โดยขอให้ Binance แสดงข้อความที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการตรวจจับธุรกรรมที่ผิดกฎหมายและการรับสมัครสมาชิกในสหรัฐฯ
โดยทางการสหรัฐฯ ขอเอกสารที่ส่งโดยชางเพ็ง เจา ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง Binance และหุ้นส่วนบริษัทอีก 12 คน รวมถึงเอกสารที่ “ถูกระบุให้ ทำลาย แก้ไข ลบออกจากไฟล์ของ Binance” หรือ “ถูกโอนมาจากสหรัฐอเมริกา” ทั้งหมด
เจ้าหน้าที่ กล่าวว่า กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า Binance ได้ละเมิดกฎหมายว่าด้วยความลับทางธนาคาร (Bank Secrecy Act) หรือไม่
ซึ่งในขั้นตอนการตรวจสอบนี้ หากเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนคริปโทฯ ที่ดำเนินการในสหรัฐ จะต้องขึ้นทะเบียนกับกระทรวงการคลังและปฏิบัติตามข้อกำหนดในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ทั้งนี้บทความที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ เปิดเผยว่า Binance เติบโตอย่างรวดเร็วก็จริง แต่การคัดกรองลูกค้าเป็นไปอย่างหละหลวม และทาง Binance ก็ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดแก่หน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแล
ซึ่งรอยเตอร์ พบว่า Binance มีช่องโหว่ในข้อบังคับภายในบริษัทที่จัดทำขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้กระทำผิดกฎหมาย (Compliance Program) ที่เอื้อให้เหล่าอาชญากรทำการฟอกเงินมาแล้วกว่า 2.35 พันล้านดอลลาร์ (8.64 หมื่นล้านบาท) ผ่านการซื้อ-ขายคริปโทฯ บนแพล็ตฟอร์ม
โดยก่อนหน้านี้ ลูกค้า Binance สามารถเข้าใช้งานแพล็ตฟอร์มซื้อ-ขายคริปโท หลังลงทะเบียนด้วยอีเมลเท่านั้น จนถึงกลางปี 2021 นอกจากนี้ ลูกค้าชาวอิหร่านซึ่งถูกสหรัฐคว่ำบาตรก็สามารถเทรดคริปโทฯ แพล็ตฟอร์ม Binance เช่นกัน
ด้าน Binance ออกมาแย้งรายงานของรอยเตอร์ โดยระบุว่า “ล้าสมัย” พร้อมอธิบายว่า “ทางบริษัทกำลังขับเคลื่อนสู่มาตรฐานอุตสาหกรรมที่สูงขึ้น” และ “กำลังปรับปรุงระบบตรวจจับธุรกรรมการเงินที่ผิดกฎหมายบนแพลตฟอร์ม” พร้อมระบุว่า ตัวเลขการฟอกเงินบนแพล็ตฟอร์มในรายงานของรอยเตอร์นั้นไม่ถูกต้อง
(1 ดอลลาร์ = 36.78 บาท)
#TheStructureNews
#Binance #MoneyLaundry
อ้างอิง :[1] https://www.reuters.com/technology/exclusive-us-sought-records-binance-ceo-crypto-money-laundering-probe-2022-09-01/