Newsผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลบุก กสทช. เรียกร้องให้ทบทวนการถ่ายทอดสดบอลโลก ให้ “ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ”

ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลบุก กสทช. เรียกร้องให้ทบทวนการถ่ายทอดสดบอลโลก ให้ “ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ”

ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลบุก กสทช. ร้องจัดสรรถ่ายทอดฟุตบอลโลกไม่เท่าเทียม เอื้อประโยชน์เอกชนบางราย ยื่น 3 ข้อ ทบทวนการถ่ายทอดสด

 

จากกรณีบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ออกหนังสือเรื่องการแจ้งสิทธิการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2022 ระบุว่าสิทธิการถ่ายทอดฟุตบอลโลกของกลุ่มทรู และขอให้ดำเนินการถ่ายทอดการแข่งขัน โดยไม่ละเมิดสิทธิให้สอดคล้องกับกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะการถ่ายทอดสดบนระบบโทรทัศน์ภาคพื้นดิน จะนำไปเผยแพร่ตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 ได้เฉพาะบนระบบดาวเทียมและระบบเคเบิล ไม่รวมถึงบนระบบไอพีทีวี ระบบอินเทอร์เน็ต ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ และระบบ OTT นั้น

 

นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการและที่ปรึกษาสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย)  ได้เข้ายื่นหนังสือแก่กสทช. เรื่องการจัดสรรการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก (รอบสุดท้าย) 2022 ให้กับผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงทั้ง 64 คู่ ตลอดการแข่งขัน

 

โดยเนื้อหาในหนังสือแสดงจุดยืนให้ กสทช. วินิจฉัยหลักการการจัดสรรการถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2022 ที่ผ่านกองทุน กทปส. ให้เงินสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก (รอบสุดท้าย) 600 ล้านบาท แก่ กกท. เพื่อนำไปเป็นเงินตั้งต้นในการดำเนินซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย จากกรุงโดฮา รัฐกาตาร์ โดยมีหลักการตามบันทึกข้อตกลงที่ระบุไว้ว่า ให้จัดสรรการถ่ายทอดสดแก่ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลอย่างเท่าเทียม และทั่วถึงทั้ง 64 คู่ ตลอดการแข่งขัน

 

เนื่องด้วยการดำเนินการของ กกท. เกี่ยวกับการจัดสรรการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้ตั้งแต่เริ่มต้น มีข้อพึงสังเกตถึงความไม่ถูกต้องในการจัดสรรการถ่ายทอด สมาคมฯ จึงเรียนไปยัง กสทช. เพื่อโปรดตรวจสอบและวินิจฉัยว่าการจัดสรรครั้งนี้มีความถูกต้อง เป็นธรรมหรือไม่ ตามรายละเอียด 3 ข้อ ดังนี้

 

1.การได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 600 ล้านบาท จากกองทุน กทปส. ซึ่งเป็นเงินที่ได้ส่งมอบมาจากผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ เพื่อเป็นเงินทุนในการสนับสนุน ส่งเสริม วิจัย และพัฒนาในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ นั่นหมายถึง ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ร่วมสนับสนุนไปกับกิจกรรมนี้ด้วยเช่นกัน

 

การจัดสรรแมตช์ในการถ่ายทอดสดให้แก่ช่องต่างๆ ควรเป็นไปตามมติในการให้เงินสนับสนุนของ กสทช. ทั้ง 64 แมตช์ (แบ่งสิทธิประโยชน์ตามสัดส่วนของการสนับสนุน คือ คิดเป็น 40% ของงบฯ การซื้อลิขสิทธิ์ 1,400 ล้านบาท) ไม่ใช่เพียง 32 แมตช์ และได้รับหลังจากที่ผู้สนับสนุนหลัก (กลุ่มทรู ซึ่งมีธุรกิจเป็นช่องทีวีดิจิทัลด้วย) เลือกแมตช์สำคัญไปแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงความไม่ทั่วถึงและไม่เท่าเทียมอย่างมาก

 

2.กรณีกลุ่มทรูให้การสนับสนุน 300 ล้านบาท ได้รับสิทธิประโยชน์ครอบคลุมสิทธิการถ่ายทอดทุกช่องทาง ทุกแพลตฟอร์ม แบบ exclusive ได้สิทธิในการเลือกคู่แข่งขันจำนวน 32 แมตช์ และได้นาทีโฆษณาจากช่องทีวีดิจิทัลที่ร่วมถ่ายทอดจาก กกท. ส่วน กสทช. สนับสนุนเงินผ่านกองทุน กทปส. จำนวน 600 ล้านบาท ด้วยมติต้องจัดสรรสิทธิการถ่ายทอดให้แก่ช่องทีวีดิจิทัล ซึ่งเป็นแหล่งที่มารายได้ของกองทุนอย่างทั่วถึงเท่าเทียมทั้ง 64 แมตช์ กลับได้รับการจัดสรรสิทธิเพียง 32 แมตช์ และเป็นแมตช์ที่เหลือจากที่กลุ่มทรูได้เลือกไปแล้ว ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ไม่เป็นธรรม และผิดต่อหลักการ “ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ” และเอื้อประโยชน์กับเอกชนรายใดรายหนึ่งอย่างชัดเจน

 

3.กกท. จัดสรรการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกเรียบร้อยแล้วในวันที่ 19 พ.ย. ตั้งแต่ 10.00-16.00น. โดยให้สิทธิแก่กลุ่มทรูที่เป็นผู้สนับสนุนหลัก ได้เลือกแมตช์ต่างๆ ก่อน โดยแบ่งส่วนที่เหลือจากการเลือก 32 แมตช์ ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ทั้ง 21 ช่องที่ร่วมถ่ายทอด โดยสมาคมฯ และสมาชิกช่องสถานี ทักท้วงหลายครั้งต่อ กกท. ในหลักการที่ไม่สอดคล้องกับมติทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ ของ กสทช. แต่ทาง กกท. ยังยืนยันที่จะดำเนินการต่อไป

 

สมาคมฯ จึงเรียนมายัง กสทช. เพื่อยืนยันว่าการที่สถานีโทรทัศน์ดิจิทัลของสมาชิก 13 ช่อง ที่เสนอรับสิทธิร่วมถ่ายทอดไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของ กกท. ซึ่งขัดต่อหลักการทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ แต่ได้จำยอมร่วมจับฉลากไปในวันที่ 19 พ.ย.นั้น เหตุเพราะคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้ชมฟุตบอลโลกที่จะถ่ายทอดสดคู่แรกในวันที่ 20 พ.ย. เวลา 23.00 น. ให้สามารถดำเนินไปได้ก่อน และแจ้งต่อที่ประชุมของ กกท. อย่างชัดเจนแล้ว

 

การจับฉลากครั้งนี้สมาคมฯ ไม่ถือเป็นการยอมรับในหลักการและวิธีการของ กกท. ขอสงวนสิทธิในการทักท้วง ไม่เห็นด้วยในการจัดสรรการถ่ายทอดของ กกท. จึงเรียนมายังคณะกรรมการ กสทช. เพื่อวินิจฉัยว่าการจัดสรรสิทธิการถ่ายทอดสดของ กกท. เป็นไปโดยชอบ และขัดกับหลักการทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ของ กสทช. หรือไม่ อย่างไร

อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า