
เตรียมปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ สุชาติคุยนายกฯ ขอปรับ 1 ต.ค. เผยคุยสภาแรงงาน-นายจ้างแล้ว
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าได้คุยแนวทางการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขณะนี้กำลังเร่งรัดกระบวนการพิจารณาอยู่ ซึ่งหลังจากนี้จะหารือกับปลัดกระทรวงแรงงานทันที โดยนายกรัฐมนตรีกำชับให้ดูเรื่องนายจ้างว่ารับได้หรือไม่ หากปรับขึ้น
นายสุชาติ ชมกลิ่น เผยว่า ในการประชุมไตรภาคีที่ประชุมกันแล้วทุกจังหวัด ขณะนี้ได้ตัวเลขมาแล้ว แต่อำนาจในการไกล่เกลี่ยเปอร์เซ็นต์ให้เหมาะสม แต่ละจังหวัดจะมีความแตกต่างกันประมาณ 1-2 บาท เรากำลังปรับขึ้นลงให้อยู่ จะทำประมาณ 12 ช่วง ตัวเลขจะไม่เท่ากัน ขึ้นเท่ากันทุกจังหวัดเป็นไปไม่ได้เพราะค่าครองชีพแต่ละจังหวัดไม่เหมือนกัน GDP ต่างกัน
“ในส่วนนี้ตนได้ให้นโยบายกับท่านปลัดไปแล้วว่าต้องทำให้จบภายในสิงหาคมนี้ น่าจะเข้าครม.ช่วงต้นเดือนกันยายน โดยปกติผลบังคับใช้จะเป็นช่วงต้นปีทุกครั้ง เพื่องบดุลของแต่ละบริษัท
แต่ครั้งนี้ต้องยอมรับว่าระยะเวลาที่ผ่านมาหนึ่งปีกว่านั้น เราไม่ได้ปรับค่าแรงเลย เพราะอยู่ในช่วงสถานการณ์แก้ปัญหา การเยียวยา การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลได้อุดหนุนและเยียวยา SME ประคับประคองการจ้างงานประมาณ 10 ล้านคน”
ตลาดจ้างงานช่วงสองไตรมาสแรกของปี 65 บวกมาอีก 6แสนกว่าคน สถานการณ์ต่างๆช่วงที่ผ่านมาปี 63-64 ต้องยอมรับว่า สถานการณ์ทั่วโลกนั้นมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 การจะขึ้นค่าแรงสวนทางกับสถานการณ์ทั่วโลกนั้น เป็นสิ่งที่ไม่มีใครทำ รัฐบาลเองได้ช่วยประคับประครองไม่ให้มีการเลิกจ้าง ซึ่งวันนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่เราและนายจ้างก็เห็นดีเห็นงามด้วยเพื่อให้ลูกจ้างมีขวัญกำลังใจ
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่เรากำหนดประมาณ 5-8%นั้น มีพื้นฐานการตั้งตัวเลขมาจาก GDP ภาวะเงินเฟ้อของประเทศเป็นตัวตั้ง และนำ GDP จังหวัดมาคำนวณ โดยสถานการณ์ค่าครองชีพหรือเม็ดเงินล้อจากฐานเดิม
ในช่วงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตหรือจังหวัดพื้นที่ EEC กทม. ต้องขึ้นสูงขึ้นเพราะค่าครองชีพ GDP จังหวัดเติบโตตามเศรษฐกิจ โดยย้ำว่าขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นว่าเราจะเร่งรัดและนำเข้าครม.ในเดือนกันยายนให้ได้ ส่วนตัวอยากให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ตุลาคม เพราะคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนหารือกับสภานายจ้างว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะปรับให้ขึ้นเร็วกว่าต้นปี เพราะขณะนี้สินค้าอุปโภคบริโภคมีการปรับตัวไปแล้ว ขอให้เชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
เมื่อถามว่าการนำเรื่องนี้จะทำให้รัฐบาลถูกมองว่าเป็นการใช้ประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า มองว่าเป็นเรื่องช่วงเวลามากกว่า ถ้าคิดว่าการขึ้นค่าเเรงเป็นเรื่องการเมืองคงขึ้นค่าแรง 492 บาทตามข้อเรียกร้องของผู้นำแรงงานไปแล้ว
ขอร้องอย่าเอาเรื่องค่าแรงเป็นเรื่องการเมือง เพราะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศชาติ เราไม่สามารถเอาเรื่องค่าแรงเป็นเรื่องการเมืองแต่เราปรับตามเวลาที่เหมาะสม
#TheStructureNews
#ครม. #สุชาติ #ขึ้นค่าแรง