
เปิดรายละเอียดที่มา ‘เงินดิจิทัลเพื่อไทย’ รายได้จากรัฐบาลก่อน-ภาษี-ตัดงบสวัสดิการอื่น
จากกรณีนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทของพรรคเพื่อไทยนั้น ทำให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งให้พรรคเพื่อไทยชี้แจงนโยบายตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติประกอบร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ซึ่งระบุว่า
“การกําหนดนโยบายของพรรคการเมืองที่ใช้ในการประกาศโฆษณาให้คํานึงถึง ความเห็นของสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด นโยบายใดที่ต้องใช้จ่ายเงิน การประกาศโฆษณานโยบายนั้น อย่างน้อยต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้
(๑) วงเงินที่ต้องใช้ และที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินการ
(๒) ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินนโยบาย
(๓) ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบาย ในกรณีพรรคการเมืองไม่ได้จัดทำรายการตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการสั่งให้ดำเนินการ
ให้ครบถ้วนและถูกต้องภายในระยะเวลาที่กําหนด”
พรรคเพื่อไทยได้ส่งเอกสารชี้แจงถึง กกต. เรียบร้อยแล้ว เป็นเอกสารจำนวน 60 หน้า มีรายละเอียดมากที่สุดอยู่ที่หน้า 59 โดยระบุชื่อนโยบายว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยมีวงเงินที่ต้องใช้ 560,000 ล้านบาท และเอกสารตอบประเด็นที่ถูกบังคับโดยกฎหมายดังนี้
—–
“ที่มาของเงิน”
—–
มาจากการบริหารระบบงบประมาณและภาษี ประกอบด้วย
1 ประมาณการรายได้รัฐที่เพิ่มขึ้นในปี 67 : 260,000 ล้านบาท
2 ภาษีที่ได้มาจากผลคูณต่อเศรษฐกิจจากนโยบาย 100,000 ล้านบาท
3 การบริหารจัดการงบประมาณ 110,000 ล้านบาท
4 การบริหารงบประมาณด้านสวัสดิการที่ซ้ำซ้อน 90,000 ล้านบาท
—–
“ความคุ้มค่าและประโยชน์”
—–
ประชาชนได้รับเงินดิจิทัลก้นถุง ที่มีเงื่อนไขเป็นประโยชน์สูงสุดต่อการกระตุ้นและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เกิดเงินหมุนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างเท่าเทียม และขยายตัวสูงกว่าเม็ดเงินที่ใช้
ประชาชนทุกคนมีกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งจะทำให้เป็นประโยชน์ต่อมาตรการทางการคลังในอนาคต เพราะสามารถใส่โปรแกรมเพื่อระบุเงื่อนไขไปในเงินดิจิทัลได้ ทำให้มาตรการทางการคลังมีประสิทธิภาพสูงสุด
ประเทศเข้าสู่ระบบการเงินรูปแบบใหม่ผ่านเทคโนโลยี Blockchain เพื่อรองรับการเปลี่ยนของระบบการเงินโลก
ภาคธุรกิจได้รับอานิสงจากกำลังซื้อประชาชนที่เพิ่มขึ้นอย่างเท่าเทียม ทั่วถึงในทุกพื้นที่
—–
“ผลกระทบและความเสี่ยง”
—–
สามารถยกระดับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศให้พร้อมรับการขับเคลื่อนจากนโยบายด้านอื่นๆ ของพรรค เพื่อสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยาว ซึ่งมีผลตอบแทนสูงกว่างบประมาณที่ใช้
เกิดการกระจายตัวของเม็ดเงินในระดับชุมชนทั่วประเทศพร้อมกัน สร้างเงินหมุนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ