เริ่ม ก.พ. ปีหน้า มีแค่ 2 คนก็จัดตั้งบริษัทได้ กระทรวงพาณิชย์ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวการประกอบธุรกิจ
เริ่ม ก.พ. ปีหน้า แค่ 2 คนก็จัดตั้งบริษัทได้
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เสนอพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 23) พ.ศ. 2565 และพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2565 เพื่อปรับปรุงประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ลักษณะ 22 หุ้นส่วนและบริษัท ให้มีความทันสมัยรองรับการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของเทคโนโลยี ส่งเสริมให้จัดตั้งบริษัทจำกัดได้ง่ายขึ้น เพิ่มความคล่องตัวการประกอบธุรกิจ
อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทจำกัดสามารถควบรวมกิจการได้มากกว่าหนึ่งลักษณะ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ และสร้างภาพลักษณ์อันดีในการประกอบธุรกิจ รองรับระบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล และช่วยลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนการดำเนินงานให้ผู้ประกอบธุรกิจตามนโยบายของรัฐบาล
ล่าสุดพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 23) พ.ศ. 2565 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 จะมีผลบังคับใช้วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 โดยมีสาระสำคัญ 3 เรื่องหลัก คือ
- ลดจำนวนผู้เริ่มก่อการจัดตั้งบริษัทจำกัดจาก 3 คน เหลือแค่ 2 คน
2.การควบรวมกิจการเข้าด้วยกันมีความยืดหยุ่นมากขึ้นจากบริษัท ก+ข ต้องเป็น ค เท่านั้น ต่อไป ก+ข จะเป็น ค หรือ เป็น ก หรือ เป็น ข สุดแล้วแต่ผู้ประกอบการจะเลือกว่าจะใช้บริษัทใด
3.ยกเลิกการนำหนังสือเชิญประชุมไปลงประกาศในหนังสือพิมพ์ ยกเว้นบริษัทที่มีหุ้นผู้ถือเท่านั้นที่ยังต้องลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์อยู่
ทั้งนี้ การแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในครั้งนี้ มีประเด็นที่เปลี่ยนแปลงหลายประการ ดังนี้
- การยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท สามารถยื่น ณ สำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทที่สำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่หรือตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด จากเดิมสำนักงานใหญ่อยู่ในจังหวัดใด ต้องจดทะเบียน ณ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนั้นเท่านั้น
- รัฐมนตรีมีอำนาจกำหนด ลด หรือยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร การขอสำเนาเอกสารพร้อมคำรับรอง และค่าธรรมเนียมอื่นที่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนและบริษัท หรือกำหนดค่าธรรมเนียมให้แตกต่างกันตามรูปแบบการทำธุรกรรมก็ได้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนใช้บริการผ่านระบบสารสนเทศมากขึ้น
- บุคคลตั้งแต่ 2 ขึ้นไปจะเริ่มก่อการและตั้งเป็นบริษัทจำกัดก็ได้ จากเดิมต้อง 3 คนขึ้นไป
4.หนังสือบริคณห์สนธิที่จดทะเบียนไว้ หากไม่ดำเนินการจดทะเบียนบริษัทจำกัดภายใน 3 ปีสิ้นผลทันที จากเดิมที่ไม่มีอายุของการสิ้นผล ทำให้บุคคลอื่นไม่สามารถใช้ชื่อบริษัทที่ปรากฏในหนังสือบริคณห์สนธิที่จดทะเบียนไว้ได้
5.บริษัทใดมีตราประทับต้องประทับตราในใบหุ้นทุกใบ
- ให้ธุรกิจนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการประชุมกรรมการได้เพิ่มขึ้นอีกวิธีหนึ่ง นอกจากต้องมาประชุม ณ สถานที่นัดประชุมเท่านั้น
- ยกเลิกการนำหนังสือเชิญประชุมไปลงประกาศในหนังสือพิมพ์ ยกเว้นในกรณีบริษัทจำกัดมีหุ้นชนิดออกให้แก่ผู้ถือที่ยังต้องโฆษณาในหนังสือพิมพ์ หรือในสื่ออิเล็กทรอนิกส์อยู่
- ให้บริษัทจำกัดจ่ายเงินปันผลให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ประชุมใหญ่หรือกรรมการลงมติเพื่อคุ้มครองผู้ถือหุ้นรายย่อย
9) ปรับปรุงหลักการเกี่ยวกับการควบบริษัทจากเดิม ก + ข = ค เท่านั้น ต่อไปกำหนดให้บริษัทสามารถควบรวมกันได้ใน 2 ลักษณะ คือ (1) ควบรวมบริษัทแล้วเกิดเป็นบริษัทใหม่ (ก + ข = ค) และ (2) ควบรวมบริษัทแล้วเหลืออยู่บริษัทใดบริษัทหนึ่ง (ก + ข = ก หรือ ข)
นายสินิตย์ กล่าวว่า เมื่อมีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ยังได้แก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ. ๒๔๙๙ ให้สอดคล้องกับการแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.ดังกล่าวด้วยแล้ว เพื่อให้สอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าพิจารณาหลักเกณฑ์ของกฎกระทรวงที่กำหนดตามกฎหมายฉบับนี้ และจัดรับฟังความคิดเห็นจากภาครัฐและภาคเอกชนในโอกาสต่อไป
#TheStructureNews
#กระทรวงพาณิชย์ #บริษัทจำกัด
เอกชนเสนอรัฐบาลใหม่ 6 ประเด็น ขอให้ส่งเสริมการเป็น Technology hub ยกระดับเทคโนโลยี,จ่ายค่าจ้างแรงงานตามทักษะฝีมือ ยกระดับฝีมือแรงงานไทย,ขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน
รัฐบาลหนุนบริการ e-Visa อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวต่างชาติ
พยายามเปิดกว้างที่สุด ‘โรม’ รับตอบยากเรื่อง ‘กฎหมายนิรโทษฉบับก้าวไกล’ ยันเป็นร่างกฎหมายที่พยาามให้ยืดหยุ่น-เปิดกว้างที่สุด-เงื่อนไขน้อยที่สุด
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม