‘มาครง’ เสนอนโยบาย ส่งผู้อพยพไปอาศัยในเขตชนบท เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรในบางพื้นที่

ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล มาครง เสนอยกเครื่องนโยบายการย้ายถิ่นฐานและการขอลี้ภัย ที่จะกระจายผู้อพยพไปยังพื้นที่ชนบทที่ประชากรกำลังลดลง พร้อมประณามนโยบายปัจจุบัน ที่ส่งตัวผู้อพยพไปในย่านที่ยากจนและแออัดที่สุดว่า ‘ไร้ประสิทธิภาพและไร้มนุษยธรรม’

มาครง อธิบายว่า จะเป็นการดีกว่าถ้าเราส่งผู้อพยพที่เพิ่งเดินทางมาถึงให้ไปตั้งรกรากในพื้นที่ที่มีประชากรเบาบาง เนื่องจากจะช่วยทำให้พวกเขาเหล่านั้นสามารถปรับตัวได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะกับผู้อพยพที่มีทักษะวิชาชีพ หรือทักษะด้านภาษามาบ้าง

นอกจากนี้ การส่งครอบครัวผู้อพยพซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีบุตรเยอะกว่าครอบครัวชาวยุโรป ไปยังแถบชนบทที่ตัวเลขประชากรกำลังลดลงเรื่อยๆ จะช่วยเพิ่มจำนวนประชากรได้ มาครง กล่าวเสริม

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว โดยเอริค เซมมูร์ นักเขียนและนักข่าวการเมืองฝ่ายขวาจัด เสนอแนะว่าปัญหาการลดลงของประชากรในแถบชนบท แก้ไขได้ด้วยการอนุมัติ ‘เงินอุดหนุนบุตร’ จำนวน 10,000 ยูโร (370,000 บาท) สำหรับบุตรที่เกิดจากพ่อแม่พื้นเมืองในชนบทของฝรั่งเศส แทนที่จะควักเงินช่วยเหลือผู้อพยพที่เป็นผู้เยาว์ที่เดินทางมาลำพัง จำนวน 50,000 ยูโร/คน (1.85 ล้านบาท) ในแต่ละปี

มารีน เลอ แปน ผู้นำฝ่ายขวาจัดอีกคน โพสต์ทวีตว่า “พวกเราคิดว่าคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายที่ประธานาธิบดีตั้งใจว่าจะส่งไปตั้งรกรากในชนบทควรถูกส่งตัวกลับประเทศให้หมด”

ทั้งนี้ มาครง ให้คำมั่นว่า จะปรับปรุงประสิทธิภาพของนโยบายการเนรเทศคนต่างด้าวที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยระบุว่า ฝรั่งเศสจะต้องตั้งเงื่อนไขการออกวีซ่าให้กับผู้อพยพที่ประพฤติตัวดี และเนรเทศผู้อพยพที่กระทำความผิด

(1 ยูโร = 37 บาท)