
ค่าสารก่อมะเร็งที่มาบตาพุดพุ่ง! โดยสูงเกินมาตรฐานที่กำหนดทุกจุด นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม จี้ให้แก้ปัญหา พร้อมตรวจสุขภาพประชาชนด่วน
นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม เผยผลตรวจวัดค่าสารก่อมะเร็งในพื้นที่มาบตาพุด เกินมาตรฐานที่กำหนดทุกจุดและสูงมาตลอดหลายปี แนะทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมทั้งตรวจสุขภาพประชาชน
นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย เผยผลตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่มาบตาพุด จากกรมควบคุมมลพิษ ตลอด 1 ปี 2564 และ 2565 มีดังนี้ คือ
1) สารเบนซีนมีค่าเฉลี่ย 1 ปีระหว่าง 1.8-5.8 มคก.ต่อ ลบ.ม (มาตรฐานกำหนดไม่เกิน 1.7 มคก.ต่อ ลบ.ม.) สถานที่เกินคือ วัดหนองแฟบ ที่ทำการบ้านพลง เมืองใหม่มาบตาพุด รพ.สต.มาบตาพุด ศูนย์บริการสาธารณสุขตากวน และชุมชนเนินพยอม โดยมีค่าสูงสุดที่ชุมชนบ้านพลง 5.8 มคก.ต่อ ลบ.ม.
2) 1, 3-Butadiene เฉลี่ย 1 ปี มีค่าระหว่าง 0.36-1.30 มค.ก.ต่อ ลบ.ม. (มาตรฐานกำหนดไม่เกิน 0.33 มคก.ต่อ ลบ.ม.) สถานที่เกินคือ วัดหนองแฟบ ที่ทำการบ้านพลง เมืองใหม่มาบตาพุด รพ.สต.มาบตาพุด ศูนย์บริการสาธารณสุขตากวน โดยมีค่าสูงสุดที่ศูนย์บริการสาธารณสุขตากวน 1.30 มคก.ต่อลบ.ม.
3) 1, 2-Dichloroethane เฉลี่ย 1 ปีมีค่าระหว่าง 0.4-1.2 มค.ก ต่อลบ.ม. (มาตรฐานกำหนดไม่เกิน 0.4 มคก.ต่อ ลบ.ม) สถานที่เกินคือ วัดหนองแฟบ ที่ทำการบ้านพลง เมืองใหม่มาบตาพุด รพ.สต.มาบตาพุด ศูนย์บริการสาธารณสุขตากวน และชุมชนเนินพยอม โดยมีค่าสูงสุดที่เมืองใหม่มาบตาพุด1.20 มคก.ต่อ ลบ.ม.
นอกจากนี้ ยังพบว่าชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด มีค่าสารก่อมะเร็งเกินค่ามาตรฐานมาตลอดตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา จนปัจจุบันปี 2565 ยังคงเกินมาตรฐาน ชาวบ้านหายใจเอาสาร VOCs ดังกล่าวอย่างน้อย 3 ตัวเข้าไปพร้อมกันทุกวัน โดยจะอ้างว่าไม่ได้มาจากโรงงาน แต่มาจากรถยนต์ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะจุดที่ตรวจวัดไม่ได้อยู่ริมถนน ไม่มีรถยนต์วิ่ง แต่ชุมชนบ้านพลงมีสารเบนซินสูงมาโดยตลอด
จากข้อมูลสรุปรายงานสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในพื้นที่พิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยกองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค จ.ระยอง 2563 ระบุว่าอัตราการป่วยรูปร่างผิดปกติแต่กำเนิด การพิการจนผิดรูปแต่กำเนิด และโครโมโซมผิดปกติ มีอัตราสูงสุดใน อ.เมือง จ.ระยอง
ทั้งนี้ นายสนธิ เสนอให้กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงาน กรมอนามัย และกรมควบคุมโรค ร่วมกับประชาชน ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งมลพิษจากโรงงานในพื้นที่มาบตาพุด และตรวจสุขภาพของประชาชนด้วยว่าได้รับสารไอระเหย สารอินทรีย์เข้าไปเท่าไหร่ มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การที่สารก่อมะเร็งในชุมชนรอบพื้นที่มาบตาพุดสูงเกินค่ามาตรฐานและมีค่าสูงมาตลอดหลายปี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังนิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร และยังมีความพยายามที่จะยกเลิกเขตควบคุมมลพิษอีก
ด้าน ดร.สมนึก จงมีวศิน ตัวแทนเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ตั้งแต่เมื่อต้นปี 2554 ที่มีการระบุปัญหาสาร VOCs ทั้ง 2 ชนิดไว้ว่า อาจทำให้มีผลกระทบต่อชุมชนในระยะต่อไป รวมทั้งปัญหาความเสี่ยงด้านสุขภาพ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง การประชุมครั้งนั้นยังได้มีข้อเสนอแนวทางการดำเนินงานเพื่อรับมือและขจัดปัญหาดังกล่าวไว้ชัดเจนหลายประการ แต่ปัจจุบัน ปัญหายังคงมีอยู่ ทั้งที่ผ่านมาแล้วกว่า 10 ปี ดังนั้น จึงควรหรือไม่ที่จะยกเลิกการประกาศเขตควบคุมมลพิษ ทั้งที่ยังแก้ไขปัญหาไม่ได้
#TheStructureNews
#มาบตาพุด #ค่าสารก่อมะเร็ง