ArticlesHere We Go (6)

Here We Go (6)

อัปเดตประเทศไทย 30 มีนาคม 2565

อาทิตย์นี้ขอเริ่มต้นด้วยเรื่องที่กระทบต่อความรู้สึกของคนไทยเกือบทั้งประเทศ พวกเราที่สนใจข่าวสารบ้านเมืองคงจำได้ กรณีเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2565 ศาลชั้นต้นจังหวัดสมุทรปราการอ่านคำพิพากษาคดีชายชื่อสมมติว่า “วุฒิภัทร” ที่ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 โดยการโพสต์ในกลุ่มเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีการสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 8 ทำนองว่าเป็นการสวรรคตอย่างมีเงื่อนงำ ใช้ถ้อยคำใส่ความ หมิ่นประมาท พาดพิงสร้างความเข้าใจผิดต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง “วุฒิภัทร” ในข้อหาตามมาตรา 112 เพราะศาลเห็นว่าช่วงเวลาที่โพสต์ข้อความในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้สวรรคตไปแล้วกฎหมายไม่ได้ให้ความคุ้มครอง การกระทำจึงไม่เข้าองค์ประกอบมาตรา 112 แต่ศาลได้ลงโทษตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ให้จำคุก 1 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามเหลือจำคุกแปดเดือน เพราะนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันบิดเบือนหรือเป็นเท็จ

หลังจากนั้นเรื่องนี้กลายเป็นความน่าเสียใจยิ่งของคนไทย เพราะ Influencer บางคนในสื่อออนไลน์ รวมทั้ง NGO ที่อ้างตัวเป็นองค์กรต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ช่วยเหลือประชาชนด้านกฎหมาย กลับเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนและเป็นเท็จให้ผู้เสพข่าวของตนเข้าใจว่าการใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรืออาฆาตมาดร้ายในหลวงรัชกาลที่ 9 ไม่เป็นความผิดเพราะท่านสวรรคตไปแล้วกฎหมายไม่คุ้มครอง

เหมือนเจตนายุยงส่งเสริมให้ผู้เสพข่าวไปกระทำการเลวร้ายต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 หรือรัชกาลอื่นที่สวรรคตไปแล้วต่อไปอีก มีพวกเสพข่าวที่ไม่ได้คิดอย่างถี่ถ้วนหลงเชื่อทำตามคนพวกนั้นแสดงความคิดเห็นอย่างหยาบคาย โดยหารู้ไม่ว่าคนพวกนั้นกำลังยุยงให้เหล่าเยาวชนคนรุ่นใหม่ไปกระทำผิดแทนพวกเขา ติดคุกแทนพวกเขา

อยากให้ทุกฝ่ายตั้งสติ อ่านคำพิพากษาฉบับย่อก็ได้ แต่อ่านให้ครบถ้วนตามที่ศาลท่านได้เขียนไว้ก็จะถึงบางอ้อว่าศาลท่านว่าไว้อย่างไร (ทุกท่านสามารถอ่านคำพิพากษาได้จากข่าวในสื่อกระแสหลักได้) แต่ขอสรุปให้ฟังว่า คำพิพากษาของศาลชั้นต้นสมุทรปราการระบุว่าถ้อยคำของจำเลยที่พาดพิงถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นถ้อยคำด่าทอ หยาบคาย ใส่ความ หมิ่นประมาท และแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 การกระทำของจำเลยมีเจตนาทำให้ในหลวงรัชกาลที่ 9 ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง และเสื่อมพระเกียรติ อีกทั้งกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนทั่วไปที่เข้ามาพบเห็นและก่อให้เกิดความแตกแยกเป็นฝักฝ่ายในสังคม

เพียงแต่ศาลยกฟ้องในข้อหาตามมาตรา 112 เพราะเห็นว่ามาตรา 112 ไม่คุ้มครองพระมหากษัตริย์ที่ได้สวรรคตไปแล้ว มีประเด็นที่คนไทยควรคิดอย่างน้อยสองสิ่งด้วยกัน สิ่งแรกจำเลยกระทำความผิดอย่างร้ายแรงต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยการใช้ถ้อยคำด่าทอ หยาบคายใส่ความ เจตนาให้พระองค์ท่านถูกดูหมิ่น ได้รับความเกลียดชัง เสื่อมพระเกียรติ สิ่งที่สองการใช้ถ้อยคำของจำเลยกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนทั่วไปและก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม

ถามว่า “วุฒิภัทร” นายทำได้อย่างไร นายดีใจที่ไม่ถูกลงโทษได้อย่างไร นายคนเดียวทำลายความรู้สึกของคนไทยที่เคารพรักเทิดทูนในหลวงรัชกาลที่ 9 เต็มหัวใจ และถามต่อไปถึงคนที่กำลังยุยงให้เยาวชนกระทำแบบ “วุฒิภัทร” เพราะไม่มีความผิด พวกนายยุยงแบบนั้นได้อย่างไร รู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง และกระทำความผิดต่อหัวใจของคนไทย แต่พวกนายก็ยังหลอกใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือให้ไปกระทำการต่ำช้าแทนพวกนาย การกระทำของพวกนายไม่ต่างจากคำพิพากษาของศาลที่เขียนไว้แม้แต่น้อย พวกนายกำลังกระทำการที่กระทบต่อความรู้สึกของคนไทยและทำให้เกิดความแตกแยกเป็นฝักฝ่ายในสังคม

สัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่เพิ่งเริ่มขึ้น กลายเป็นสัปดาห์การขายหนังสือ การเปิดตัว การจัดเวทีอภิปราย ขยายแนวความคิดทางการเมืองการปกครองของคนกลุ่มหนึ่ง เรื่องนี้เป็นบทเรียนสำคัญของคนทุกฝ่ายในสังคม ประเทศไทยอยู่ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านทาง Generation คนรุ่นใหม่กระหายที่จะเรียนรู้ กระหายที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงสังคม ขณะที่คนกลุ่มหนึ่งกระหายที่จะสนับสนุนความคิดที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสังคม สัปดาห์หนังสือแห่งชาติปีนี้และน่าจะเป็นปีต่อ ๆ ไปด้วย จึงเป็นพื้นที่พบกันของ generation ต่าง ๆ ที่มีความกระหายตรงกัน หนังสือหลายเล่มจะถูกนำขึ้นหิ้งตามบ้าน ห้องสมุด โรงเรียน ถ้าไม่สร้างสมดุลหนังสือที่จะขึ้นหิ้งตามที่ต่าง ๆ ให้ดี ระวังจะมีแต่หนังสือที่จะนำพาสังคมของเราให้เดินผิดทิศผิดทาง ไปอยู่บนหิ้งหนังสือ

เรื่องอุ๊งอิ๊งค์กับพรรคเพื่อไทยเป็น Talk of the Town มาตลอดสัปดาห์ มีบทวิเคราะห์วิจารณ์มากมาย ทั้งชื่นชม ทั้งด้อยค่า แต่นับว่าทักษิณประสบความสำเร็จในการนับหนึ่งให้อุ๊งอิ๊งค์อยู่ในแสงไฟสว่างจ้าได้เป็นที่เรียบร้อย ทำอย่างไรจะไม่ให้ไฟไหม้ตัวเองไปเสียก่อนที่จะถึงการเลือกตั้ง เป็นการบ้านข้อต่อไปของทักษิณ

ความที่เป็นนักคิดกลยุทธ์ แต่ใจร้อน เชื่อมั่นตัวเอง มั่นใจในหมากที่เดิน ทะนงตัวว่าฉลาดเหนือใครทั้งปวง ปี 2562 พลาดมาครั้งหนึ่งแล้วเรื่องพรรคไทยรักษาชาติและชื่อนายกรัฐมนตรี อ่านเกมผิด เพราะมั่นใจในข้อมูลที่ไม่รู้จริง มาคราวนี้ ปี 2565 ตัดปัจจัยภายนอกทิ้งไป หยิบตัวเลือกมาจากปัจจัยภายในที่ตัวเองคิดว่าตัวเองควบคุมได้มาแทน ดูว่าน่าจะราบรื่น ราบรื่นในตอนต้นนี่คงไม่มีใครโต้แย้งแต่กลางทางต้องพึงระวัง เพราะหมากนี้มีจุดอ่อนตรงที่อุ๊งอิ๊งค์มาเพื่อประโยชน์ของครอบครัวมากกว่าประโยชน์ของประเทศชาติ เพราะทักษิณประกาศจะกลับบ้าน กลับเมื่อไรให้ไปถามอุ๊งอิ๊ง พอมีคนไปถาม คุณเธอขานรับจะพากลับเอง เสร็จแล้วก็มาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ไม่ให้เข้าใจว่ามาเพื่อภารกิจของครอบครัวได้อย่างไร

เหมือนดูหนังซีรี่ส์การเมืองของเกาหลี ทักษิณหวังอย่างเดียวว่าเลือกตั้งคราวหน้า เพื่อไทยต้องชนะแบบ landslide ไม่ต้องพึ่งพรรคการเมืองใดก็จัดตั้งรัฐบาลได้ ทักษิณต้องอาศัยสองอย่างคือ กฎหมายลูกว่าด้วยวิธีเลือกตั้งกับคะแนนเสียงในภาคอีสานและภาคเหนือ เวลานี้กฎหมายลูกกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มในสภา เรื่องเบอร์เดียวทั้งประเทศหรือสองเบอร์ ทักษิณอยากได้เบอร์เดียว พรรคใหญ่ก็อยากได้ ฝ่ายวุฒิสภาอยากได้สองเบอร์เพื่อช่วยพรรคเล็ก

แต่ดูเสียงในกรรมาธิการแล้วโหวตอาทิตย์นี้เบอร์เดียวคงชนะ ในกระดานหมากรุกการเมืองหลัง เลือกตั้ง คงมีพรรคเพื่อไทย พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ก้าวไกล ที่จะชี้ชะตาการมีรัฐบาลชุดใหม่ จึงเป็นคำอธิบายว่าทำไมเพื่อไทยต้อง landslide ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นเหมือนปี 2562

แต่ที่น่าตลกและน่าเป็นห่วงทักษิณและน่าติดตาม นิดาโพลชี้เมื่อวันอาทิตย์นี้ว่า คนที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี อันดับ 1 นายพิธา อันดับสองพลเอกประยุทธ์ อันดับสามอุ๊งอิ๊งค์ อย่าทำเป็นเล่นไป ฐานคะแนนเสียงของเพื่อไทยและก้าวไกลเป็นคนกลุ่มใกล้เคียงกัน ที่สำคัญก้าวไกลไม่ใช่พรรคสาขาของเพื่อไทย เพราะมี agenda ของตัวเอง คงไม่ออมมือ อ่อนข้อให้ตอนจัดคนลง ส.ส.และเวลาหาเสียง แค่เห็นภาพนี้ก่อนการเลือกตั้งอีกนานก็สนุกแล้ว ต้องขอบคุณทักษิณที่ส่งอุ๊งอิ๊งค์มาช่วยให้การเมืองมีสีมีแสงมีไฟ

สงครามในยูเครน ประเทศไทยต้องเดินหมากให้ดี ต้องระวังกูรู คนที่คิดว่าตัวเองเป็นกูรู เป็น influencer ทางความคิดชี้นำ ให้คำปรึกษา หรือแม้แต่รับทำดีลทางการต่างประเทศให้หน่วยงานของรัฐ

ขอเตือนว่าอย่าผลีผลาม คิดสักสองสามครั้ง ดูภูมิหลังของกูรูให้ดี ของแท้หรือของปลอม กูรูบางคน อ่านเฟซบุ๊กของเขาสักสามสี่เรื่องก็ตอบได้แล้วว่าของจริงหรือของปลอม รู้จริงหรือราคาคุย หากไม่รอบคอบกูรูเหล่านี้จะชักนำไปในทางเสียหาย ไม่ได้เสียหายเฉพาะองค์กรแต่ไปไกลถึงประเทศชาติด้วย เราต้องไม่ลืมว่า รัสเซีย สหรัฐอเมริกา หรือยุโรป พวกเขาเก่งในเรื่องการทำงานลับเพื่อชิงความได้เปรียบในทุกสมรภูมิทั้งยามสงบและยามสงคราม เล่ห์เหลี่ยม กับดัก หลุมพราง มันถูกออกแบบเพื่อดึงคนไม่รู้จริงให้หลงเดินตามสิ่งที่เขาวางไว้

สงครามข้อมูลข่าวสารกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำสงคราม ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องเดินหลงเข้าไปเป็นคู่กรณีกับใคร บทบาทที่เราควรเล่นคือประเทศเล็ก ๆ ที่มีประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ที่ดีอันยาวนานกับทุกมหาอำนาจในโลกใบนี้ ประเทศเล็ก ๆ ที่พร้อมส่งเสริมให้เกิดสันติภาพ มหาอำนาจลดความขัดแย้ง นำปรัชญาของเศรษกิจพอเพียงเป็นเครื่องมือสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนดังที่กำลังจะเกิดขึ้นในการประชุมเอเปคปลายปีนี้ มีข้อคิดเล็ก ๆ ฝากไว้ คนไทยเราแบ่งเป็นฝักฝ่ายจริงจริง เกลียดอเมริกา อึดอัดกับยุโรป เลยหันไปเชียร์รัสเซียที่ยกพลเข้าไปทำลายยูเครนเสียยับเยิน แบบว่าอีก 10 ปีจะฟื้นตัวได้หรือไม่ก็ไม่รู้ เราคนไทยจะเชียร์ใครหรือด่าใครคงห้ามหรือหนุนลำบาก แต่คนเป็นรัฐบาลต้องวางตัวให้เหมาะสม

เราเห็นสงครามในยูเครนเดินทางมาได้ 1 เดือนพอดี มีคำถามเกิดขึ้นว่าสงครามในเดือนที่ 2 จะนำไปสู่อะไรได้บ้าง เราได้เห็นท่าทีล่าสุดของประธานาธิบดีไบเดน ที่เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในรัสเซีย เพราะปูตินมีอันตรายต่อสันติภาพโลกมากเกินกว่าที่จะรับได้ แปลความได้ว่าสหรัฐและยุโรปกำลังกลัวการตัดสินใจยกระดับการปฏิบัติการทางทหารในยูเครน กลัวว่าปูตินจะขยายแนวรบออกไปถึงโปแลนด์ซึ่งทำให้สหรัฐไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าร่วมสงครามโดยตรง และกลัวว่าปูตินจะตอบโต้การแซงชั่นทางเศรฐกิจด้วยวิธีการที่รุนแรงยิ่งกว่า หรืออาจกลัวไปถึงปูตินจะใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตียูเครนหรือพื้นที่นอกเหนือยูเครน จึงน่าเชื่อว่า สหรัฐน่าจะเดินหน้าบ่อนทำลายปูตินให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอำนาจในรัสเซีย

ในสื่อตะวันตกมีรายงานเรื่อง ผอ. ข่าวกรองแห่งชาติ หรือ FSB ถูกควบคุมตัวไว้ที่บ้าน การหายหน้าไปของรัฐมนตรีกลาโหม ความไม่พอใจของคนรัสเซียที่ลูกหลานที่เป็นทหารเสียชีวิตจำนวนมากโดยที่รัฐบาลปิดบังข้อเท็จจริง ชี้นำถึงกระแสความขัดแย้งในรัสเซีย แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะโค่นปูติน ตรงกันข้ามในเดือนที่ 2 ของสงครามเราอาจได้เห็นการเข้ายึดเมืองบางเมืองเช่นที่รัสเซียเข้ายึด Maruipol แล้วบังคับให้ชาวยูเครนในเมืองนั้นอพยพออกไปเพื่อนำคนรัสเซียเข้ามาอยู่อาศัยแทน มีการวิเคราะห์ว่าปูตินกำลังจะแยกยูเครนออกเป็นสองส่วนเหมือนเกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือ ประเด็นนี้น่าสนใจ คงต้องดูต่อว่าเดือนที่ 2 สถานการณ์จะเป็นอย่างไร บทสรุป ณ สัปดาห์นี้ สงครามจะมีความรุนแรงเหมือนเดิม คนยูเครนต้องอพยพเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน โปแลนด์คงต้องรับภาระหนักหน่วง ทำให้ประธานาธิบดีไบเดนต้องรีบไปเยือนโปแลนด์ ทั้งเรื่องผู้อพยพและเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโปแลนด์ การเจรจาสันติภาพไม่คืบหน้า สหรัฐ ยุโรป และพันธมิตรอื่น ๆ ร่วมมือกันแซงชั่นรัสเซียและคนรัสเซียต่อไป

ส่วนคนไทยใช้น้ำมันแพง………

โดย : แกงส้ม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า