Articlesเก็บตกจากวันสตรีสากล ความยุติธรรม: เรื่องสำคัญที่ถูกละเลย การใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อเว้นคดีความ จนคนจากฝั่งสีเทาๆ ใหญ่คับบ้านคับเมือง

เก็บตกจากวันสตรีสากล ความยุติธรรม: เรื่องสำคัญที่ถูกละเลย การใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อเว้นคดีความ จนคนจากฝั่งสีเทาๆ ใหญ่คับบ้านคับเมือง

———-
เก็บตกจากวันสตรีสากล
———-

 

วันที่ 8 มีนาคมของทุกปี ถือเป็นวันสตรีสากลที่รำลึกถึงการต่อสู้ของแรงงานสตรีโรงงานทอผ้าเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อปี 2400 ที่ถูกนายจ้างเอาเปรียบ กดขี่ ทารุณ โดยต้องการเรียกร้องค่าจ้างและสิทธิแรงงานเป็นเบื้องต้น 

 

ต่อมาก็มีการพัฒนาข้อเรียกร้องความเสมอภาค ยุติธรรมและการพัฒนาให้กับสตรีและเด็กด้วย เมื่อองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็นให้การรับรองว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของโลก ไทยก็ต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน 

 

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก็ใช้โอกาสนี้จัดงานเพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงคุณค่า ความสำคัญ เคารพบทบาทของสตรี รวมทั้งยกย่องสตรีไทยที่มีบทบาทโดดเด่นเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม 

 

ซึ่งปีนี้ได้แก่ คุณหญิงณัฐิกา วัฒนเวคิน อังอุบลกุล นักธุรกิจและนักสังคมสงเคราะห์ที่อุทิศตัวเพื่อสาธารณประโยชน์ในหลายด้าน หนึ่งในนั้นคือการทุ่มเทสืบสานงานของพระพันปีหลวงด้านผ้าไหมไทย สร้างงานสร้างรายได้และต่อยอดวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย

 

สตรีไทยอีกท่านหนึ่งที่คนไทยต้องไม่ลืม ซึ่งเมื่อไม่นานนี้องค์การยูเนสโกประกาศยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกปี 2566 และจะร่วมเฉลิมฉลองพระเกียรติคุณร่วมกับรัฐบาลคุณประยุทธ์คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ 

 

โดยรัฐบาลจะจัดงานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปี วันประสูติซึ่งตรงกับวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 ช่วงชีวิตของพระองค์ทรงประกอบพระกรณียกิจนานัปการ ครอบคลุมทั้งด้านการศึกษา การแพทย์ การสาธารณสุข ด้านสังคมสงเคราะห์ ด้านศาสนา ด้านศิลปวัฒนธรรม ก่อประโยชน์แก่คนไทยมากมาย 

 

แม้พระองค์จะไม่อยู่แล้ว ในหลวงรัชกาลที่ 10 ยังทรงรับงานเหล่านี้มาดำเนินการต่อ โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจ ทำให้คนไทยโดยเฉพาะในพื้นที่ทุรกันดารที่ความเจริญยังเข้าไปไม่ถึง ให้ได้รับประโยชน์ต่อเนื่อง เช่น ภารกิจของมูลนิธิ พอ.สว. มูลนิธิโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เป็นต้น 

 

จัดว่าเป็นพื้นที่ปลอดการเมือง เพราะนักการเมืองไม่เคยเดินเข้าไป หาเสียงคงไม่คุ้มกับการเข้าไปขอคะแนนเสียง เสียเวลาไปเปล่าๆ ไม่เหมือนกับพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินทุกตารางนิ้ว โดยยึดเอาประโยชน์ของราษฎรของพระองค์ทุกคนเป็นที่ตั้ง แบบนี้คนไทยจะลืมพระองค์ได้อย่างไร

 

———-
พรรคการเมืองกับวันสตรีสากล
———-

 

  ช่วงนี้พอถึงวันสัญลักษณ์อะไรผ่านมาที แต่ละพรรคการเมืองก็ต้องผูกโยงนโยบายเรื่องนั้นๆ ให้เข้ากับวันสัญลักษณ์ เช่นเดียวกับวันสตรีสากล พรรคการเมืองที่มีผู้หญิงเป็นใหญ่ก็ต้องสร้างภาพจำ บางพรรคบอกว่าจะสานต่อเพิ่มเงินให้กองทุนพัฒนาสตรีแต่ละจังหวัด 

 

แนะนำว่าลองไปศึกษากองทุนเก่าก่อนว่าเงินส่งลงไปถึงกลุ่มสตรีพื้นที่ไหนบ้าง ทั่วถึงหรือเปล่า ไปติดอยู่ที่กระเป๋าใครก่อน เผื่อลงพื้นที่แล้วถูกทวงถาม ซึ่งก็คือสร้างนโยบายประชานิยมแจกเงิน  (แต่ไปไม่ถึงชาวบ้าน)  

 

บางพรรคทุนน้อยหน่อยก็สร้างเวที ตั้งกลุ่มงานรับฟังปัญหาสตรี เด็ก และกลุ่มเพศสภาพ ก็แสดงให้ได้รู้ว่าพรรคเห็นความสำคัญของกลุ่มนี้ บางพรรคยิ่งหนัก เอานโยบายไปใส่มือกลุ่มม็อบที่อ้างว่ามาแสดงกิจกรรมวันสตรีสากล แต่ที่แท้ก็เป็นเพียงม็อบหาเสียง 

 

ไม่ว่าจะเรียกร้องยกเลิกกฎหมายป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี ขอทำแท้งเสรีและฟรี คืนสิทธิประกันตัวให้กลุ่มการเมืองที่ทำผิดกฎหมาย อ้างถึงสิทธิความเป็นคน เสรีภาพที่ทุกคนจะทำอะไรก็ได้ ข้อเรียกร้องเหล่านี้แตกต่างไปจากเจตนารมย์ของวันสตรีสากลพอสมควร  

 

———-
บทเรียนจากสตรีสำคัญของโลก
———-

 

จากประวัติศาสตร์การเมืองโลกที่ผ่านมา มีหลายประเทศที่มีผู้หญิงขึ้นมาบริหารจัดการประเทศ จนได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลของแผ่นดินและโลกต้องจดจำ

 

ไม่ว่าจะเป็นพระนางซูซีไทเฮา ราชินีหลังม่านของจีน นางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ นางสิงห์เหล็กแห่งอังกฤษ นางอังเกลา มาร์เคิล นายกฯ หญิงเหล็กแห่งเยอรมัน นางจาซินดา อาร์เดิร์น ผู้นำแห่งความเข้าอกเข้าใจของนิวซีแลนด์  แต่ละคนต่างเป็นผู้ทรงอิทธิพลในแต่ละห้วงยุคสมัย 

 

ไม่ใช่ว่าผู้นำสตรีทุกคนจะประสบความสำเร็จ บางคนมีจุดจบทางการเมืองที่แตกต่างกัน หลายคนได้รับคำชื่นชม บางคนโดนคดี ติดคุกติดตาราง บางคนหนีคดีเปลี่ยนสัญชาติ มีแม้กระทั่งถูกลอบสังหาร  

 

แต่ที่ทุกคนมีเหมือนกันคือ สตรีเหล่านี้ผ่านช่วงเวลาเข้าสู่วงการเมืองมายาวนาน ศึกษา เก็บเกี่ยวประสบการณ์การเมือง ทำให้เข้าใจสภาพแวดล้อมด้านการเมืองทั้งในและนอกประเทศ จึงรับมือกับแรงกดดันจากในบ้านและนอกบ้านได้ 

 

ก็อยากเห็นและให้ไทยมีผู้นำสตรีทางการเมืองที่เข้มแข็ง มีคุณธรรมขึ้นมามีบทบาทเป็นผู้นำรับผิดชอบบ้านเมืองบ้าง เหมือนอย่างที่ภาคเอกชนของไทยมีมาแล้ว 

 

อย่าให้เหมือนมะม่วงบ่มแก๊สที่ข้างนอกดูสวยน่ารับประทาน แต่พอเลือกซื้อมาแล้วก็พบว่าเนื้อในยังเปรี้ยวกินไม่ได้เพราะยังไม่สุกจริง แต่ถูกพ่อค้าใช้วิธีหลอกเร่งขายอยากได้เงิน ดูถูกผู้ซื้อว่ารู้ไม่เท่าทัน ทำแบบนี้ระวังทั้งพ่อค้าและมะม่วงจะไม่มีที่ให้ขายของอีก

 

———-
ความยุติธรรม: เรื่องสำคัญที่ถูกละเลย
———-

 

ปิดท้ายอาทิตย์นี้อยากให้ช่วยกันคิด เพราะที่ผ่านมามีเรื่องราวเกิดขึ้นหลายอย่างเป็นที่สนใจของพวกเราคนไทยธรรมดา เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นคนไทยธรรมดาที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินนี้ 

 

เอาเรื่องที่ใกล้ตัว ที่กระทบความรู้สึกกระทบจิตใจ เรื่องของ “ความยุติธรรม” เราเห็นบางเรื่องที่สมควรถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความยุติธรรมในประเทศไทย คำถามถูกตั้งไปถึงตำรวจ อัยการ และศาล 

 

ประเด็นสำคัญที่สุดในคำถามคือ คำกล่าวที่ว่า “บุคคลย่อมเสมอภาคกันภายใต้กฎหมาย” มันมีจริงหรือไม่ในประเทศไทย 

 

ความโปร่งใสของกระบวนการยุติธรรมและการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน มันมีจริงหรือไม่เช่นกัน คนมียศมีตำแหน่งกับคนไทยทั่วไป ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายอย่างเสมอภาคกันหรือไม่ 

 

และท่านทั้งหลายในสายธารแห่งการอำนวยความยุติธรรมเคยตระหนักหรือไม่ว่า การได้รับความไม่ยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรม มันทำให้คนเราเจ็บที่ใจได้มากเพียงไร 

 

เคยตระหนักหรือไม่ว่า อาการเจ็บที่ใจมันสามารถแปรเปลี่ยนเป็นความคับแค้นใจ ความเกลียด ความโกรธ ความหมดสิ้นศรัทธา ความสิ้นหวัง แล้วถ้ามันถูกสะสมมากขึ้นทุกวัน อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปในประเทศไทยเรา

 

———-
การใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อละเว้นคดีความ
———-

 

เวลาเราพูดเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบ เรามักคิดเรื่องการโกงเงิน การเรียกรับผลประโยชน์เป็นเงินหรือสิ่งของเพื่อแลกกับการอนุญาตอนุมัติ หรือแม้แต่การฮั้วประมูลโครงการของรัฐ 

 

แต่เราไม่ค่อยคิดถึงเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบในการใช้อำนาจเพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน การช่วยคนผิดให้กลายเป็นถูก ช่วยคนเลวให้เป็นคนดีทั้งที่เลวอย่างที่สุด ช่วยคนโกงให้ไม่ต้องรับโทษ 

 

เราได้ยินเรื่องการสร้างพยานเท็จ เป่าคดี แก้สำนวน ทำสำนวนอ่อน กลายเป็นคนมียศมีตำแหน่งเป็นบุคคลสำคัญไม่ต้องรับโทษทั้งที่ทำความผิด ไม่ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ มีผู้มีอิทธิพลช่วยเหลือให้เป็นผู้บริสุทธิ์โดยไม่ต้องพิสูจน์ตัวเอง 

 

นี่คือการทุจริตประพฤติมิชอบอย่างร้ายแรงประเภทหนึ่งที่คนเราหลงลืม มองข้าม แต่มันทำให้สังคมของเราบอบช้ำ อ่อนแอ เพราะคนจน คนธรรมดาไม่สามารถพึ่งพาความยุติธรรม เราไม่เสมอกันทางกฎหมาย เพราะมีผู้มีอำนาจทุจริตประพฤติมิชอบเสียเอง

 

ลองมองย้อนกลับไป ทำไมประเทศไทยและสังคมไทยจึงเป็นเช่นในปี พ.ศ. นี้ ปี 2566 เราไม่ได้เพิ่งจะมาเป็นหรือเพิ่งค้นพบ เราเป็นมานานแล้วตั้งแต่ปี 2540 ระบบราชการดีขึ้นเพราะการปฏิรูป แต่ระบบการเมืองกลับไม่ได้ดีขึ้นตามระบบราชการ 

 

พรรคการเมืองครองอำนาจเด็ดขาด ขาดการถ่วงดุล เกิดรัฐตำรวจเพราะผู้มีอำนาจเป็นตำรวจมาก่อน ตำรวจถูกใช้เป็นเครื่องมือรักษาอำนาจ เครือข่ายการเมือง ธุรกิจ ข้าราชการถูกใช้เป็นเครื่องมือในการหาประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ร่ำรวยจากการทุจริตแต่ไม่ต้องรับโทษ ไม่มีความผิด 

 

ถึงมีความผิดก็ไม่ต้องรับโทษเพราะเป็นบุคคลสำคัญ เพราะมียศมีตำแหน่ง เพราะมีเงิน เพราะมีพวก จึงมีคนช่วยให้ใช้ชีวิตนอกคุกนอกตะรางได้

 

———-
คนใหญ่โตสีเทาที่ใหญ่คับบ้านคับเมือง
———-

 

ตกถึงปี พ.ศ.นี้ คนใหญ่คนโตสีเทาๆ จึงใหญ่คับบ้านคับเมือง สั่งได้ ขอได้ สังคมมันจึงเหลวแหลกเละเทะ เพราะคนดีไม่ได้มีอำนาจหรือมีอำนาจแต่ใช้สร้างความเป็นธรรมไม่ได้เต็มที่ เพราะมีผู้ใหญ่สีเทาๆ ขวางทางการใช้ธรรมเป็นอำนาจ 

 

ลองอ่านจดหมายยาว 7 หน้า 27 ข้อของนายตำรวจรายหนึ่งที่ส่งถึงตุลาการท่านหนึ่ง อธิบายความของคดีที่พัวพันจีนเทาและคนอื่นๆ อีกหลายคน อ่านหลายๆ เที่ยว ใครเกี่ยวข้อง ใครเข้ามายุ่งตอนไหน เวลาใด จะเห็นตัวละครโผล่มาในทุกขั้นตอน 

 

ลองเอาตัวละครที่เกี่ยวข้องมาพินิจพิเคราะห์ดู จะเข้าใจได้ว่าผลพวงจากปี 2540 ทำวงการอำนวยความยุติธรรมสั่นสะเทือนได้จนถึงปัจจุบัน

 

วันนี้ลองถามตัวเอง ถึงเวลาหรือยังที่เราจะไม่ให้คนสีเทาๆ เข้ามามีอำนาจ เข้ามาทุจริตในการใช้อำนาจ ทำสังคมเราให้มีมาตรฐาน คนธรรมดาทั่วไปสามารถอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี ได้รับการปกป้องคุ้มครอง คำว่าเสมอภาค เท่าเทียม มันศักดิ์สิทธิ์จริง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า