Here We Go 36

ช่วงนี้สภาปิด พรรคการเมืองแทบทุกพรรคต่างออกไปขับเคี่ยวหาคะแนนนิยมกันนอกสภา เตรียมไว้สำหรับวันเลือกตั้งครั้งต่อไป ซึ่งไม่รู้จะมาถึงเมื่อไร ต้องไปถามใจคุณประยุทธ์

กติกาในการเลือกตั้งแม้จะยังไม่ชัดเจน แต่ทุกพรรคให้น้ำหนักไปที่การใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ทุกพรรคจึงต้องหาทางสร้างความได้เปรียบ หรือไม่ก็ลดจุดเสียเปรียบให้เหลือน้อยที่สุด รองรับกติกาใหม่

———-
จับตาการเดินเกมของทักษิณและเพื่อไทย
———-

คุณทักษิณ ณ ดูไบ ถึงจะอยู่ไกลแต่ไวต่อกระแสการเมืองไทยอย่างยิ่ง ประกาศในงานวันเกิดรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเมื่อกลางตุลาคมปีที่แล้วทันทีว่า เลือกตั้งครั้งต่อไปเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์

หลังจากนั้น 2  สัปดาห์ พรรคเพื่อไทยที่ถูกจริตกับกติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบก็ประกาศแผนเอาชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์รองรับความคิดของคุณทักษิณทันที

ไม่ว่าจะปรับโครงสร้างพรรคใหม่ เปลี่ยนหัวหน้าพรรคคนใหม่ เปิดตัวหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยที่ไม่ใช่ใครคือคุณอุ๊งอิ๊ง ลูกสาวสุดที่รักซึ่งประกาศภารกิจหลักของพรรคต่อประชาชนเช่นกัน คือ พาคุณทักษิณกลับบ้าน คงจะหมายถึงว่ากลับบ้านแบบพ้นคดี

การยอมให้ลูกสาวออกมานำทัพพรรคเพื่อไทย ติดตามด้วยการอนุญาตให้ภรรยาออกมาแสดงตนสนับสนุนพรรคในที่สาธารณะ แสดงให้เป็นที่เข้าใจชัดเจนว่าการเลือกตั้งครั้งนี้คุณทักษิณสู้ไม่ถอย ทุ่มทรัพยากรอย่างเต็มที่

จึงเป็นแรงดึงดูดสำคัญที่ทำให้ ส.ส.นักเลือกตั้งทั้งหลายต่างทยอยเปลี่ยนขั้ว ยอมเปลี่ยนพรรค หวังพึ่งพิงกระสุนมากกว่ากระแส หากแพ้เลือกตั้งก็ยังได้กระสุนเก็บไว้ทำทุน

หลังจากนี้เราจะได้เห็นลีลากิจกรรมของคุณทักษิณที่ขับเคลื่อนเรื่องการเมืองอยู่นอกประเทศจะเป็นไปอย่างสอดคล้องคู่ขนานไปกับกิจกรรมของพรรคเพื่อไทยที่อยู่ในไทย

อย่างล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันเปิดงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 27 วันที่ 12 ตุลาคม 2565 พรรคเพื่อไทยไปเปิดบูธในงาน มีการนำหนังสือประวัติชีวิตของคุณทักษิณไปโปรโมทจำหน่ายใหญ่โต คุณอุ๊งอิ๊งที่เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินนำคุณชลน่านหัวหน้าพรรคแต่ในนาม คอยต้อนรับผู้ว่า กทม.ที่มาเปิดงานให้

ยังมีกิจกรรมแจกลายเซ็นผ่านระบบออนไลน์ของคุณทักษิณให้กับคนที่ซื้อหนังสือประวัติชีวิตของคุณทักษิณ นัยยะเพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าคุณทักษิณกับพรรคเพื่อไทยมีความทันยุคทันสมัย ล้ำหน้าเรื่องเทคโนโลยี เกื้อกูลกันแบบไร้ช่องว่าง

———-
กลยุทธ์เจาะฐานคนรุ่นใหม่
———-

หลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีรายการไกลบ้านของคุณฟาโรส ไปตามติดชีวิตและเปิดบ้านคุณทักษิณที่ดูไบแบบเป็นการเฉพาะ พูดคุยอย่างเป็นกันเอง นำชมบ้านที่ดูสะดวกสบายน่าอยู่

แฝงด้วยคำพูดถึงครอบครัวที่อบอุ่น ความต้องการที่อยากกลับเมืองไทยเพื่อมาเลี้ยงหลาน โฆษณาช่อง Club House ของตัวเอง โฆษณาหนังสือที่ขายในงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ ตบท้ายด้วยการด้อยค่า 3  ป. เรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นแบบโดยบังเอิญ ต้องวางแผนจัดเตรียมล่วงหน้า

คุณทักษิณเป็นคนเก่งด้านการใช้สื่อเทคโนโลยีประชาสัมพันธ์ รายการไกลบ้านของคุณฟาโรส ด้วยชื่อรายการมีความหมาย มีผู้ติดตามในโลก online หลักล้านคน เป็น Youtuber ที่มีอิทธิพลในโลก online คนหนึ่งของไทย ผู้ติดตามส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเยาวชน  คนที่เริ่มทำงาน วัยใกล้เคียงกับคุณอุ๊งอิ๊ง 

และหนึ่งในสปอนเซอร์หลักของรายการคือ เครือบริษัทแสนสิริ ของคุณเศรษฐา ทวีสิน ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย

จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมคุณทักษิณถึงได้ออกรายการนี้ในช่วงเวลานี้ เป็นการฉลาดใช้สื่อประชาสัมพันธ์ที่เข้าถึงเฉพาะกลุ่มเป้าหมายซึ่งถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ เพราะมีผู้เข้าชมแล้วเป็นล้านครั้งมากกว่าตอนอื่นๆ

———-
ศึกชิง New Voter 8 แสนราย
———-

นอกจากกิจกรรมที่ทำประจำคือสนทนาผ่าน Club House กับกลุ่มแคร์ของพรรคเพื่อไทย ที่ผู้ติดตามจะเป็นวัยกลางคนที่ชื่นชมคุณทักษิณอยู่แล้ว จากนี้ไปจะได้เห็นคุณทักษิณออกสื่อ online ในช่องที่เข้าถึงกลุ่มที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรกมากขึ้น

ข้อมูลของคณะกรรมการเลือกตั้งมีตัวเลขของคนกลุ่มนี้แล้วประมาณ 8 แสนคน ที่ต้องแย่งชิงกับพรรคก้าวไกลที่เชี่ยวชาญการใช้สื่อ online เช่นกัน

การให้บทบาทของคุณอุ๊งอิ้งออกมานำทัพดึงคะแนนคนรุ่นใหม่ อาจยังไม่เป็นหลักประกันผลการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ คุณทักษิณจึงต้องออกมาเล่นเอง ตอกย้ำแนวทางเดิมคือ “ทักษิณคิด อุ๊งอิ้งนำ เพื่อไทยทำ”

ศึกแย่งชิงคะแนนของกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกครั้งนี้จึงสำคัญยิ่งสำหรับคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทย เพราะมีเดิมพันถึงการจะได้กลับมาเลี้ยงหลานในไทยหรือไม่

นี่เป็นเพียงพรรคเดียวที่ยกมาให้เห็นถึงหนึ่งกลยุทธ์เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ยังมีอีกหลายพรรคการเมืองที่จะนำมาทยอยเล่าสู่กันฟัง เก็บไว้คิด ติดตามดูว่าเราจะได้ประโยชน์อะไรจากแต่ละพรรคการเมือง

ผ่านเรื่องการเมืองไป มาติดตามเรื่องดีๆ ต่อบ้านเมืองของเราสักเรื่อง ขณะนี้ไทยเรากำลังเดินเข้าสู่การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของประเทศไทยและคนไทย ที่สามารถเป็นเจ้าภาพการประชุม มีผู้นำเขตเศรษฐกิจหลายคนมาร่วมประชุมที่กรุงเทพ

———-
การเตรียมงาน APEC
———-

แม้ว่าผู้นำบางคนจะไม่ได้มา ส่งระดับเบอร์สองหรือสามมาแทน เพราะเหตุผลต่างๆ นาๆ ก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่เรื่องที่ต้องตีอกชกหัว ผิดหวังด้อยค่ากัน ถ้ามาได้ตามรายชื่อที่เป็นข่าวก็ถือว่าที่สุดแล้ว

ใครติดตามข่าวการเตรียมงานที่จะมีในห้วงวันที่ 17 ถึง 19 พฤศจิกายน เดือนหน้านี้ก็จะพบว่า รัฐบาลเตรียมความพร้อมได้ดี ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ สวยสง่างาม ใหญ่โต ทันสมัย เป็นศูนย์ประชุมระหว่างประเทศได้อย่างสมบูรณ์ ไม่อายใคร สมเกียรติ สมฐานะการเป็นเจ้าภาพที่สำคัญยิ่ง

ในหลวงและพระราชินีเสด็จฯ ทรงเปิดอย่างเป็นทางการ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้น ใครได้ไปมาบ้างแล้วในงานที่มีการจัดอุ่นเครื่อง ก็จะมีแต่ความชื่นชม ในฐานะคนไทยคนหนึ่งดีใจในความพร้อมครั้งนี้ ขอรอดูความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า

———-
จับตาผู้นำ 3 ประเทศที่ได้รับเชิญฐานะแขกพิเศษ
———-

ในท่ามกลางการเตรียมการประชุมสุดยอดเอเปค มีข่าวแทรกขึ้นมาชิ้นหนึ่งว่ามีผู้นำสามประเทศได้รับเชิญให้เข้าร่วม ในฐานะแขกพิเศษของประธานหรือ Guest of the Chair

หนึ่งในนั้นคือ ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน หรือมีชื่อย่อว่า MBS มกุฎราชกุมารและรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงกลาโหม จะเสด็จฯ มาไทยมาในฐานะ Guest of the Chair

ข่าวว่าจะมาทั้งคณะร่วมห้าร้อยถึงหกร้อยคน นับว่ายิ่งใหญ่ ให้เกียรติต่อคุณประยุทธ์ ซึ่งเป็น Counterpart ต่อกันในฐานะรัฐมนตรีกลาโหม และคุณประยุทธ์ให้เกียรติเจ้าชาย MBS ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันในฐานะเป็น Guest of the Chair

ว่ากันว่า ทั้งสองประเทศมีการเตรียมการ และทำงานร่วมกันเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปกว่า 30 ปี ฝ่ายซาอุมีคณะกรรมาธิการทุกด้านที่สำคัญ เช่น ด้านความมั่นคง และการทหาร ด้านการค้าและการลงทุน ด้านการเกษตรและอาหาร ด้านท่องเที่ยว ด้านวัฒนธรรม และศาสนา เดินทางมาในครั้งนี้และมีข้อเสนอตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกับฝ่ายไทย

นับว่าเป็นความสำเร็จของทั้งสองประเทศในการฟื้นฟูความสัมพันธ์จนเป็นปกติและจะก้าวหน้าเข้มแข็งยิ่งขึ้นต่อไป ผลประโยชน์มหาศาลตกแก่คนไทย มองเรื่องนี้อย่างไม่มีอคติก็ต้องชมเชยคุณประยุทธ์และกระทรวงการต่างประเทศที่ทำงานหนักมาตลอดหลายปี จนมีผลสำเร็จที่เกิดขึ้นยิ่งใหญ่ต่อชาติบ้านเมืองและคนไทย

            แขกพิเศษอีกสองท่าน คือ ประธานาธิบดีมาครง แห่งฝรั่งเศส ท่านมาครงคนนี้ให้ความสำคัญแก่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นพิเศษ กำลังมองหาแนวทางการสร้างสันติภาพเพื่อโลกใบนี้ของเรา ที่กำลังไม่ราบรื่นเพราะอภิมหาอำนาจทะเลาะกัน

ใครจะรู้ คนไทยอาจได้เห็นคุณประยุทธ์ได้ทำงานร่วมกับท่านมาครง เพื่อลดความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย สหรัฐฯ จีน และยุโรปก็ได้ใครจะรู้  มีสัญญาณวงในบ้างแล้วว่า ไทยพร้อมอำนวยความสะดวกให้กับความพยายามเปลี่ยนเส้นทางสงครามไปสู่เส้นทางสันติภาพในโอกาสประชุมเอเปคครั้งนี้

แขกพิเศษอีกท่านหนึ่ง คือ สมเด็จฮุน เซน แห่งกัมพูชา กัมพูชาไม่ได้เป็นสมาชิกเอเปค แต่คุณประยุทธ์มองการณ์ไกล สมเด็จฮุน เซน เป็นประธานอาเซียนและเป็นผู้นำรัฐบาลที่อาวุโสสูงสุดในอาเซียน เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญและบทบาทของอาเซียนที่มีต่อการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงระหว่างประเทศ

คุณประยุทธ์เล็งเห็นว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง แม้จะเผชิญกับการระบาดครั้งใหญ่ แต่ทุกประเทศอาเซียนก็สามารถรับมือ และฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับคืนมาเข้มแข็งได้อย่างรวดเร็ว

การยกย่องสมเด็จฮุน เซน ให้มามีบทบาทในเอเปคด้วย เป็นประโยชน์หลายชั้นสำหรับประเทศไทยและคนไทยที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับกัมพูชาในทุกด้าน โดยเฉพาะการค้าและการลงทุน

บ้านเมืองของเราไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ คนไทยไม่ได้เป็นคนอมทุกข์ขี้โรค ไม่ได้สมองว่างเปล่า จนคิดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่เป็น คนไทยเราทำได้และทำอย่างมองการณ์ไกล เข้าใจวิธีที่จะเดินหมากรุกการเมืองโลกและใช้ตาหมากที่เดินออกไปกลับมาสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนในบั้นปลาย ช่วยกันติดตามดูความสำเร็จและร่วมภูมิใจไปด้วยกันที่ผู้นำต่างชาติเดินทางมาประชุมในบ้านเราครั้งนี้