NewsHere We Go 33

Here We Go 33

ต้องขอแสดงความยินดีกับกลุ่มกองเชียร์คุณประยุทธ์หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยังคงทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไปได้อีก ซึ่งหลังจากนี้คุณประยุทธ์คงจะมีความมั่นใจในการทำหน้าที่มากขึ้น จะทำให้อำนาจในเชิงการเมืองมีมากขึ้นด้วย

 

และจากช่วงเวลาที่พักการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีมาเดือนกว่าๆ ถอยออกมาก้าวหนึ่ง ยืนดูอยู่ห่างๆ น่าจะได้เห็นสิ่งที่ยังเป็นปัญหาของบ้านเมือง มีเวลาได้คิดนโยบายใหม่ๆ ที่จะช่วยขจัดความยากลำบากของประชาชนได้ด้วย

 

และคิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลน่าจะมีกำลังใจมากขึ้นเช่นกัน ช่วยคุณประยุทธ์ทำงานเต็มที่ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาลซึ่งยังมีโครงการรวมทั้งเหตุการณ์สำคัญๆ ที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ อย่างเช่นการจัดประชุม APEC เพื่อสร้างคะแนนนิยมนำไปใช้ต่อยอดหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปได้


———-
ผู้นำซึ่งเคารพหลักนิติรัฐ
———- 
   

ด้วยใจที่เป็นธรรมแล้วต้องชื่นชมคุณประยุทธ์ที่แสดงบทบาทชัดเจนในฐานะผู้นำรัฐบาล ที่คงไว้ซึ่งหลักนิติรัฐนับตั้งแต่ศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราวตามที่ฝ่ายค้านร้องต่อศาล โดยไม่เคยแสดงท่าทีกดดันศาล ข่มขู่คุกคามตุลาการ หรือออกอาการโวยวายฟ้องต่อประชาชนกลุ่มคนที่สนับสนุน

 

แต่กลับเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นต่อศาล ส่วนตนเองก็เข้าสู่วิถีทางการต่อสู้ตามช่องทางที่กระบวนการยุติธรรมกำหนดไว้ มากไปกว่านั้นยังทำหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอย่างเต็มกำลัง

 

แสดงให้ทุกคนเห็นว่าคุณประยุทธ์รู้จักสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบอย่างดี ถือเป็นแบบอย่างของผู้นำในระบอบเสรีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ลองเปรียบเทียบดูกับการกระทำของกลุ่มที่บอกว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย เรียกร้องเสรีประชาธิปไตย ได้ปฏิบัติตัวสมกับที่กล่าวอ้างหรือไม่

———-
กลุ่มต้านที่คงไม่หยุดง่ายๆ
———- 
   

ต้องแสดงความเสียใจกับกลุ่มกองแช่งที่ต้องการให้คุณประยุทธ์พ้นจากตำแหน่ง ที่วางแผนจัดกิจกรรมให้เข้ากับจังหวะเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้านที่เป็นต้นเรื่องในสภามาตั้งแต่ต้นสิงหาคมที่ผ่านมา

 

การจัดชุมนุมเชิงข่มขู่ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้อง พอใกล้วันที่จะอ่านคำวินิจฉัยก็เรียกระดมสมาชิกมากดดันตุลาการ ออกข่าวขู่ว่าผู้คนจะออกมาขับไล่คุณประยุทธ์ถ้าศาลบอกให้ทำหน้าที่ต่อบ้าง เหมือนกับจะบอกว่าหลังจากนี้บ้านเมืองจะวุ่นวายศาลต้องคิดให้ถ้วนถี่

 

การออกมาแสดงกิจกรรมแต่ละครั้งหาคนมาได้สัก 40-50 คน ก็มักจะอ้างว่าเป็นตัวแทนของประชาชนทุกกลุ่มมาหลอมรวมตัวกัน แกนนำก็เป็นพวกนำม็อบเก่าก่อนหน้านั้นที่เคยเป็นคู่กัดกันมาก่อน เคยยืนอยู่คนละฟากกันมาก่อน ต่างคนต่างมีคดีติดตัว

 

คิดว่าถ้าคุณประยุทธ์อยู่ต่อ คดีคงเดินต่อ ไม่เสียอิสรภาพก็ต้องเสียทรัพย์สิน ไม่เป็นผลดีต่อตัวแน่ๆ แต่ถ้าเปลี่ยนผู้นำรัฐบาล การได้โอกาสได้ประโยชน์คงจะมีมากกว่า จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมคนเหล่านี้จะไหลมารวมกันเพื่อประโยชน์ส่วนตนแท้ๆ

 

ต้องจับตาดู เพราะกลุ่มนี้คงไม่ยอมง่ายๆ ต้องไปหากลุ่มอื่นๆ ที่ผู้นำกลุ่มมีคดีติดตัว มาร่วมกันไล่คุณประยุทธ์ต่อ แต่ไม่น่าจะหาคนได้เยอะเหมือนเมื่อก่อนเพราะขาดงบสนับสนุน ใครจะหอบเบี้ยมาให้จัดงานประท้วงคงต้องคิดแล้วว่าเก็บกระสุนไว้รอเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึงแล้วดีกว่า

 

สิ่งที่กลุ่มนี้จะทำได้คือ สร้างความวุ่นวายรายวัน ต้องการให้ฝ่ายรัฐหมดความอดทน จนใช้ความรุนแรงเข้าแก้ปัญหาเพื่อจุดชนวนล่มงานสำคัญที่รัฐบาลจะเป็นเจ้าภาพ เพื่อให้คุณประยุทธ์เสียหน้าและต้องแสดงความรับผิดชอบ

 

จุดนี้หน่วยงานรัฐต้องระวัง การนัดกันใส่เสื้อดำทั้งแผ่นดินน่าจะเป็นการหยั่งเชิงหาคนมาร่วมขบวนการมากกว่า ถ้าคนไม่มากก็เหมือนเป็นทางลงของม็อบไป


———-
กลุ่มนักกิจกรรมที่เริ่มแตกกันเอง
———- 

 

ยังมีกลุ่มนักศึกษากิจกรรมจากมหาวิทยาลัยที่ออกเพจชักชวนผู้ร่วมขบวนการมาลงถนนไล่คุณประยุทธ์ สาเหตุจากที่ศาลตัดสินไม่ตรงกับที่กลุ่มต้องการ กลุ่มนี้อ้างว่าเป็นตัวแทนของราษฎรหลายกลุ่ม เคยทดลองระดมคนจัดประท้วงที่กลางกรุงแต่หาคนร่วมแทบไม่ได้

 

คงเป็นเพราะเห็นตัวอย่างของเพื่อนผู้นำคนก่อนที่ตอนนี้ต่างมีคดีติดตัว ตอนนำประท้วงไม่คิดถึงข้อกฎหมายว่าทำถูกหรือผิด คิดว่ามวลชนมากจะทำอะไรก็ได้ พอจบชุมนุมก็ต้องเดินขึ้นโรงขึ้นศาล เข้าออกเรือนจำเป็นว่าเล่น ไม่เห็นมีผู้ใหญ่ที่คอยยุยงเข้ามาช่วยเหลือดูแลแต่อย่างใด

 

หลายคนเห็นสัจธรรม ถอดใจขอกลับไปเรียนให้จบก่อนเพื่ออนาคตข้างหน้า บางคนผิดหวังช้ำรักขอกลับไปขึ้นศาลตามนัดอย่างเงียบๆ  

 

บางกลุ่มที่บอกว่าจุดยืน คือ การเรียกร้องความเท่าเทียม กลับแตกคอกัน ออกมาตีแผ่แฉกันเองถึงความเลวร้ายภายในกลุ่ม มีการโกงกิน อมเงินบริจาค ใช้กำลังอำนาจทำร้ายร่างกาย บังคับจิตใจสมาชิกในกลุ่มไม่ต่างจากเผด็จการ ปากเรียกร้องประชาธิปไตยแต่การกระทำกลับตรงกันข้าม

 

ใครจะเข้าร่วมต้องเรียนรู้ศึกษาให้ดี ตอนนี้ยังออกมาด่าว่าศาล ถ้าเขาเอาเรื่องดูหมิ่นขึ้นมาจะหมดอนาคตซะอีก เตือนว่าอย่าไปเอาอย่างนักการเมืองที่เขาถือว่ามีเกราะคุ้มครองอยู่จึงกล้าทำ


———-
ทำยังไงก็ได้ให้ไทยเสียหน้าใน APEC
———- 


เป้าหมายของกลุ่มกองแช่งคุณประยุทธ์ต่อไป คงไม่พ้นการทำลายชื่อเสียงของคุณประยุทธ์ ศาลรัฐธรรมนูญ

และงานสำคัญๆ ของรัฐบาลโดยเฉพาะการประชุม APEC

 

แม้กำลังของกลุ่มขับไล่คุณประยุทธ์จะมีจำนวนคนไม่มาก แต่มีความห้าวหาญ ใจถึง ไม่กลัวเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมบวกทุกคน ยิ่งถ้ามีคนตบรางวัลก็จะสร้างความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สินที่ขวางหน้าได้ทุกอย่าง ทำแบบนี้ทุกวัน ความเชื่อมั่นในรัฐบาลก็สั่นคลอนได้

 

ยิ่งใกล้ประชุม APEC คนจะมาเข้าร่วมประชุมคงต้องคิดหนัก ความวุ่นวายหลังจากนี้เป็นการบ้านที่จะทดสอบฝีมือรัฐบาลว่าจะสามารถดูแลจัดการได้เรียบร้อยแค่ไหนเช่นกัน

 

เราลองกลับมามองภาพการเมือง หรือภาพของประเทศไทยหลังจากนี้ไป หน้าตาจะเป็นอย่างไร คนไทยอย่างเราๆ ท่านๆ จะพบเจอกับอะไรต่อไปบ้าง เราลองมาช่วยกันค้นหาดู

 

เรื่องชุมนุมประท้วง ต่อต้าน ขับไล่ ด้อยค่าคุณประยุทธ์ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบ้านเมืองเขาบริหาร จัดการ ดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง บ้านเมืองต้องสงบ ไม่มีความรุนแรงวุ่นวาย

 

อันนี้ต้องขอเตือนนักประท้วงทั้งหลาย จะพูดจาบนเวที ข้างถนน หรือบนถนน พึงสังวรณ์ไว้ ถ้าไม่อยู่บน พื้นฐานความเป็นจริง ให้ระวังข้อกฎหมายที่จะถูกดำเนินคดี อย่าคิดเอาเอง ตีความเอาเอง เชื่อเอาเอง แล้วอย่านำสถาบันพระมหากษัตริย์มาพูดถึงอย่างไม่รับผิดชอบ ระวังเรื่องนี้ไว้ให้ดี


———-
อนาคตการเมืองของคุณประยุทธ์
———-
 

เอาละจากนี้ไปคุณประยุทธ์ก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ชอบด้วยกฎหมายต่อไป เพราะยังไม่ครบ 8 ปี ดูคำวินิจฉัย แล้วครบแปดปีวันที่ 5 เมษายน 2568 เหลือเวลาอีก 2 ปีเศษเกือบ 3 ปี

 

แต่เรื่องคุณประยุทธ์กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องดูเป็นห้วงๆ ไป ตามรัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนราษฎรชุดนี้จะครบวาระ 4 ปี ในวันที่ 24 มีนาคม 2566 ประเทศจะเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งทั่วไป มีผลให้คุณประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีได้แน่ๆ ไปจนถึงวันที่ 24 มีนาคม 2566

 

จากนั้นเป็นได้แค่นายกรัฐมนตรีรักษาการณ์ระหว่างมีการเลือกตั้งทั่วไป คุณประยุทธ์จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกหรือไม่ อันนี้ต้องถามตัวคุณประยุทธ์แล้วว่าจะเล่นการเมืองต่อหรือเปล่า

 

ถามคุณประยุทธ์ฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ต้องถามพรรคการเมืองด้วยว่า จะมีพรรคการเมืองใดเสนอชื่อคุณประยุทธ์อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคหรือไม่ ถ้าไม่มีพรรคใดเสนอชื่อ ต่อให้คุณประยุทธ์อยากเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง ก็เป็นไม่ได้

 

ทีนี้ลองมาสมมติกันว่า หากคุณประยุทธ์เล่นการเมืองต่อ แล้วมีพรรคการเมืองเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคนั้นสามารถรวมกับพรรคอื่นครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรจัดตั้งรัฐบาลได้

 

เกิดการยินยอมพร้อมใจเสนอชื่อคุณประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี อาจจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จราวๆ พฤษภาคม หรือมิถุนายน 2566 ก็แปลว่าการสมมติแบบนี้ คุณประยุทธ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งแน่ๆ แต่จะเป็นได้ปีเศษๆ เกือบสองปี จนถึงวันที่ 5 เมษายน 2568 ก็ต้องบ๊ายบายพี่น้องคนไทยแล้ว

 

———-


นายกคนต่อไปในบัญชีรายชื่อ
———-

อ้าว แล้วเวลาที่เหลือตามวาระของสภาอีก 2 ปีเศษ จะเอาใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนคุณประยุทธ์ล่ะ เรื่องนี้ไม่ยาก รัฐสภาก็เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่จากบัญชีรายชื่อที่มีอยู่เดิมนั่นแหละ หรือจะเอาคนนอกบัญชีมาก็ได้ รัฐธรรมนูญเปิดทางให้ทำได้อยู่ แต่ก็ยุ่งยากมากขึ้นนิดหน่อย

 

มีกูรูบอกว่า พรรคการเมืองใดเสนอชื่อคุณประยุทธ์เป็นลำดับหนึ่ง ก็จะเสนอชื่อคุณประวิตรไว้ด้วยเป็นลำดับสองเพื่อเป็นตัวตายตัวแทนหลังวันที่ 5 เมษายน 2568 ดังนั้นคนไทยอาจได้คุณประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

 

มีกูรูอีกนั่นแหละที่มาบอกว่า ถ้ารอให้สภาครบวาระในต้นปีหน้า คุณประยุทธ์มีเวลาเป็นนายกรัฐมนตรีได้นิดเดียวไม่นานพอ อย่ากระนั้นเลย ยุบสภาเสียก่อน ครบวาระก็แล้วกัน เลือกเอาช่วงใดก็ได้หลังจากการประชุมเอเปคเสร็จสิ้นในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 หนทางแบบนี้ก็อาจจะเป็นทางหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ ก็ต้องอ่านใจคุณประยุทธ์ดู


———-
อนาคตที่ยังน่าเป็นห่วง
———-

บทสรุปของเรื่องนี้ก็ต้องอยู่ที่คุณประยุทธ์แล้ว ต้องอ่านใจคุณประยุทธ์ คนใกล้ชิด และ พรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ในแนวทางเดียวกัน

 

ยามที่มีคนคณะหนึ่ง พรรคการเมืองพรรคหนึ่งหรือหลายพรรค ตั้งหน้าตั้งตาจะเปิดประตูปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ จะให้จัดทำประชามติตั้ง สสร. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เพื่อแก้ไขหมวดสองของรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์

 

พวกที่พูดจาในสภาก็ดี พูดบนถนนก็ดี ให้ร้ายใส่ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ยังทำตัวกันเช่นนี้ ทั้งยังมีคนที่อยู่นอกประเทศบางคนทำตัวเหิมเกริม บ่อนแซะบ้านเมืองให้มีปัญหา คนที่รักและเป็นห่วงบ้านเมือง ห่วงสถาบันพระมหากษัตริย์จะหันไปพึ่งใคร

 

คุณประยุทธ์จะปล่อยมือไปในขณะที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้ หรือคุณประยุทธ์จะคิดอ่านอย่างไร ไม่มีใครตอบแทนคุณประยุทธ์ได้ เพราะทางที่จะต้องเลือก มันต้องการความเสียสละอย่างมากเหลือเกิน ที่ผ่านมาถึงวันนี้ได้ก็สาหัสเกินพอแล้วจริงๆ

อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า