HWG 28
บ้านเมืองเรามาถึงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญอีกครั้ง กรณีคุณประยุทธ์ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะเสียงข้างมากเห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่า อาจมีกรณีเป็นไปตามคำร้องของพรรคฝ่ายค้านที่ขอให้วินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งของคุณประยุทธ์ครบ 8 ปี เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมาหรือไม่
ศาลน่าจะใช้เวลาสักหนึ่งเดือนหรือนานกว่านี้เล็กน้อย เพราะเป็นข้อกฎหมายล้วนๆ ที่ต้องพิจารณาก่อนมีคำวินิจฉัย แต่การสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นี้ ทำให้กองเชียร์คุณประยุทธ์ใจแป้วไปไม่น้อย เพราะเหมือนศาลส่งสัญญาณไม่ค่อยดีตั้งแต่เริ่มต้นนับหนึ่งเลย
กรณีแบบคุณประยุทธ์ ที่มีสถานะเป็นนายกรัฐมนตรีแต่ถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เพื่อรอฟังคำวินิจฉัยของศาลเพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
———
ศึกวัดใจนายกฯ รักษาการ
———
คุณประยุทธ์ยังเป็นนายกรัฐมนตรี เพียงแต่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ส่วนคุณประวิตรเป็นแค่รองนายกรัฐมนตรีแต่ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ส่วนใครจะยกก้นคุณประวิตร เรียกท่านนายกครับ หรือจะเรียกท่านนายกประวิตรครับ เพื่อด้อยค่าคุณประยุทธ์ ไม่ว่ากัน
เพราะการเมืองประเทศไทยในยุคสมัยนี้ใช้วาทกรรมและความเห็นส่วนตัว ห้ำหั่นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่ได้คำนึงถึงคุณธรรมกันสักเท่าไรอยู่แล้ว
สิ่งที่น่าคิดก็คือ ระหว่างหนึ่งเดือนหรือสองเดือนนี้ ถ้าบ้านเมืองเป็นปกติก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ถ้าไม่ปกติ มีวิกฤตเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเหตุจากภายในประเทศหรือเหตุจากนอกประเทศก็ตาม รัฐบาลจะรับมืออย่างไรให้ประเทศชาติจะอยู่รอดปลอดภัย รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดี ผบ.เหล่าทัพ จะฟังใคร
คุณประวิตรจะปรึกษาหรือถามหรือขอคำแนะนำจากคุณประยุทธ์ในฐานะรัฐมนตรีกลาโหมหรือ ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ถูกพักงานชั่วคราวหรือไม่ หรือจะตัดสินใจด้วยตัวเอง น่าคิดเหมือนกันนะ
หรือแม้แต่หากเกิดเหตุทางการเมือง สภาผู้แทน มีปัญหา หรือเกิดสภาผู้แทนมีอุบัติเหตุไม่ผ่านกฎหมาย คุณประวิตรจะทำอย่างไร นี่ยังไม่นับรวมเดือนสิงหาคมและกันยายน ที่เป็นเดือนแห่งการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พลเรือน ตำรวจ ทหาร โผที่คุณประยุทธ์ทำไว้กับโผที่คุณประวิตรต้องการ มันตรงกันหรือเปล่า
ถ้าไม่ตรงกันจะเกิดอะไรขึ้น คุณประยุทธ์กับคุณประวิตรคงพอคุยกันได้ แต่คนที่รายล้อมรอบข้างคุณประวิตรนี่สิ มีเสียงร่ำลือว่าไม่ธรรมดา รอเวลาที่คุณประวิตรเป็นใหญ่แบบนี้มานานแล้ว
บอกตรงๆ น่าห่วง หากคุณประวิตรทำตามใจตัวเองและคนรอบข้าง แล้วคุณประยุทธ์ได้กลับมาหน้าที่ต่อ มันจะเป็นอย่างไร โหย….. ปวดหัวแทนคนไทย
———
สุภาพบุรุษทางการเมือง
———
แต่เรื่องคุณประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ยังทำให้เกิดมุมมองได้อีกหลายด้าน เริ่มที่คุณประยุทธ์ ต้องนับถือน้ำใจความเป็นสุภาพบุรุษทางการเมืองอย่างแท้จริง
ท่ามกลางเสียงโจมตีต่างๆ นานาของนักการเมืองบางพรรค และกลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีคดีติดตัวออกมาขับไล่ให้พ้นจากตำแหน่งทุกวัน คุณประยุทธ์ไม่เคยออกมาปริปากตอบโต้ กล่าวให้ร้าย พาดพิง เสียดสีเพื่อเอาคืน หรือเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลหรือกองเชียร์ลุงตู่ออกมาช่วยเหลือเลย
เหมือนกับยอมรับแทนพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคที่อยู่ด้วยกันมาเกือบครบ 8 ปีด้วยซ้ำไป เพียงแต่บอกว่าให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย นั่นแสดงถึงความเคารพในความเป็นนิติรัฐ ถือเป็นนักประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่เหมือนบางคนที่มีประชาธิปไตยอยู่แค่ลมปาก แต่ไม่เคยปฏิบัติและไม่ยอมรับ
———
กลุ่มต่อต้านประยุทธ์
———
มาดูกลุ่มนักเคลื่อนไหวทั้งหลายที่ออกมาไล่คุณประยุทธ์ มีคนไหนบ้างที่ไม่มีเบื้องหลังแอบแฝง ขอยกตัวอย่างสักกลุ่ม เช่น กลุ่มที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มหลอมรวมประชาชน หามาได้ 200-300 คน ก็บอกว่าเป็นประชามติเอกฉันท์
คนนำแต่ละคนก็มีคดีติดตัวทั้งนั้น ชีวิตนี้หากินกับการจัดม็อบคาดหวังว่าจะปูทางเป็นใหญ่ทางการเมือง หรือไม่ก็ให้รัฐบาลลงมาต่อรองเรื่องคดีที่เป็นชนักติดหลังอยู่
ส่วนนักการเมืองที่ออกมาแสดงการขับไล่แต่ละคนยิ่งหนักกว่า ใช้โอกาสใช้ตำแหน่งทำเพื่อประโยชน์ส่วนตนอย่างแท้จริง การเล่นเกมทำให้สภาล่มครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อคว่ำร่างกฎหมายเลือกตั้ง แสดงให้เห็นชัดว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเองล้วนๆ ไม่ได้คิดถึงประชาชนที่เขาเฝ้ามองอยู่ภายนอกเลย
มีกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอีกหลายฉบับที่คอยการพิจารณาอยู่ แต่กลับต้องมาเสียเวลาอย่างมากกับกฎหมายที่ทำเพื่อตัวเอง พวกพ้อง และนายใหญ่
———
ของแท้ vs ของเทียม
———
การออกมาตั้งประเด็นขับไล่คุณประยุทธ์อย่างใหญ่โตว่าอยู่ครบ 8 ปี เหมือนกับจะวาดภาพว่าคุณประยุทธ์ทำความผิดมหันต์ อยู่ต่อไม่ได้แม้แต่วันเดียว ทั้งที่มีกระบวนการตามกฎหมายอยู่แล้วคงเป็นเพราะหาความผิดในตัวของคุณประยุทธ์ไม่ได้
เรื่องทุจริตไม่มี บกพร่องโดยสุจริตก็ไม่เคยทำ เรื่องคดโกงไม่มี ทุจริตเชิงนโยบายไม่เคยทำ แต่งตั้งพวกพ้องเป็นใหญ่ไม่มี ตั้งวงศาคณาญาติให้คุมองค์กรสำคัญไม่เคยทำ เรื่องทำธุรกิจส่วนตัวและครอบครัวไม่มี ผูกขาดธุรกิจกินรวบไม่เคยทำ
มีแต่ความซื่อสัตย์ไม่ให้ร้ายต่อแผ่นดิน หลบเลี่ยงภาษีแผ่นดิน ด่าว่าด้อยค่าประเทศตัวเองไม่เคยทำ มีแต่ทุ่มเทเสียสละทำเพื่อประชาชนทุกกลุ่ม ที่จะช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มที่สนับสนุนพรรคตนเองไม่เคยพูดไม่เคยทำ
มีแต่ยอมรับต่อกระบวนการยุติธรรม ดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย หลบหนีคดีหนีศาลไม่เคยทำ หากผู้นำรัฐบาลมีเรื่องมัวหมองแบบนี้อย่าว่าแต่ 8 ปีเลย เพียงวันเดียวก็ไม่ควรให้อยู่ในตำแหน่ง หรือหลบไปอยู่ที่ไหนในโลกก็ต้องช่วยกันออกมาเรียกร้องให้กลับมารับโทษ อย่างนี้ถึงจะเรียกว่านักการเมืองที่ทำเพื่อประชาชนแท้จริง
ที่น่าเศร้าคือ มีผู้นำพรรคบางพรรคพยายามคิดวาทกรรมขับไล่คุณประยุทธ์ว่าเป็น “นายกเถื่อน” โดยไม่ดูสถานะของตนเองว่าถูกเขาอุปโลกน์ให้มาทำหน้าที่เป็น “หัวหน้าพรรคเทียม” ของเทียมยังไงก็ไม่ใช่ของแท้ คนนอกไส้ยังไงก็ไม่เหมือนลูกในไส้ กรรมทางการเมืองมันจะตามทัน
———
คำตัดสินของศาล กับ เหล่าอาจารย์ผู้ไม่เคารพกฎหมาย
———
มุมของศาลรัฐธรรมนูญที่รับคดีและให้คุณประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ถือเป็นการพิจารณาที่รอบคอบ สร้างความน่าเชื่อถือต่อกระบวนการยุติธรรม ลดความวุ่นวายของกลุ่มที่ออกมาเดินประท้วงตามท้องถนน
การออกมาตำหนิ พูดจากระทบกระเทียบ ออกมาตัดสินคดีเองออกสื่อ หรือกระทำการชี้นำรูปคดีในลักษณะใดๆ คงจะหายไป ไม่เช่นนั้นจะถือว่าหมิ่นอำนาจศาลหรือดูหมิ่นศาลได้ จึงไม่ต้องแปลกใจที่ก่อนถึงวันศาลจะรับคดี ทั้งนักการเมือง นักวิชาการ นักเคลื่อนไหวต่างๆ ต้องออกมาขย่มคุณประยุทธ์ ออกมาเขย่าศาลเหมือนกับว่าถ้าไม่ตัดสินตามนี้ ถือว่าตัดสินผิด ไม่ถูกใจประชาชน บ้านเมืองจะวุ่นวาย
ที่น่าผิดหวังอย่างหนึ่งคือ กลุ่มอาจารย์สอนกฎหมายจากสถาบันการศึกษาที่ออกมาร่วมแสดงกิจกรรมกดดันศาลกับเขาด้วย แทนที่จะออกมาสอนหรือแนะนำให้ทุกฝ่ายเคารพกรอบข้อกฎหมาย กลับมาทำลายหลักกฎหมายเสียเองแบบนี้ก็ไม่ควรจะต้องไปสอนใครอีก
———
ไทยกำลังฟื้นพร้อมกับงานใหญ่ปลายปี
———
อย่างที่บอกไว้ตอนต้น การเมืองจากนี้ไปจะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะแต่ละฝ่ายจะใช้เป็นโอกาสทอง เพื่อเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ไม่ว่าคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาแนวทางไหน เชื่อได้เลยว่าจะมีฝ่ายที่ถูกใจและไม่ถูกใจ
กลุ่มที่ไม่ถูกใจจะเริ่มชักชวนให้คนออกมาประท้วงตามที่สาธารณะต่างๆ อีก ความวุ่นวายจะเกิดขึ้นในช่วงที่ไทยกำลังเริ่มฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยวจากยุโรปและอีกหลายประเทศกำลังหนีสภาพโกลาหลจากสงครามและเดินทางมาใช้เงินในไทย
ไทยกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมผู้นำเอเปคในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ เพื่อแสดงให้ชาวโลกเห็นถึงศักยภาพของคนไทยทั้งประเทศ สร้างเกียรติภูมิให้นานาชาติทั่วโลกยอมรับ
เรากำลังลบภาพจำที่เลวร้ายของคนทั่วโลก เมื่อครั้งที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำอาเซียนที่พัทยาเมื่อปี 52 แต่ถูกม็อบบุกเข้ามาทำลายสถานที่ประชุม จนผู้นำประเทศต่างๆ ต้องหนีกันอย่างโกลาหล
ใครกันที่ปลุกระดมม็อบว่า “แพ้ไม่ได้ ต้องได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมา” จนนำไปสู่ความรุนแรงในที่สุด เราต้องจำ
ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำอย่างเราจึงต้องตั้งสติให้ดี เราต้องการผู้นำรัฐบาลแบบไหน คนนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร มีประสบการณ์ มีผลงานอะไรที่มองเห็นได้ ที่สำคัญมีใจบริสุทธิ์เพื่อบ้านเมืองอย่างแท้จริงหรือไม่
ความเห็นที่แตกต่างกันไม่ใช่มีไม่ได้ แต่ควรต้องใช้ความอดกลั้น ใช้สติ ใช้ปัญญาพิจารณาให้ถ่องแท้ อย่าให้อารมณ์ถูกชักจูงพาไป ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นหมากที่คนอื่นใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น
เซ่นพิษเศรษฐกิจ! Amazon เตรียมปลดพนักงาน 10,000 คน ตามรอยบริษัทยักษ์ใหญ่โลกรายอื่น
มาเลรับซื้อไข่ไทย เนื่องจากมาเลเซียกำลังผลิตไข่ไก่ตก จึงขอรับซื้อจากไทย เป็นกรณีพิเศษ ด้านไทยส่งออกไข่ไก่ได้ 1.5 ล้านฟองต่อวัน
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม