อีก 132 ปี หญิง ชาย ถึงเท่าเทียมโดยสมบูรณ์
World Economic Forum (WEF) รายงานเมื่อวันพุธ (13 ก.ค.) ว่า ในปัจจุบันช่องว่างระหว่างเพศเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มแรงงาน โดยคาดว่าวิกฤตค่าครองชีพจะส่งผลกระทบกับผู้หญิงมากที่สุด
จากรายงานสถานการณ์ช่องว่างระหว่างเพศระดับโลก ประจำปี 2022 (Global Gender Gap Report 2022) ระบุว่า WEF คาดการณ์ว่า จะต้องใช้เวลามากถึง 132 ปี โลกถึงจะมีความเท่าเทียมทางเพศระหว่างผู้ชายและผู้หญิงโดยสมบูรณ์ ซึ่งลดลงจาก 136 ปี ที่คาดการณ์ไว้เมื่อปีที่แล้ว
ตามเอกสารดังกล่าว ระบุว่า การระบาดของโควิด-19 ทำให้ความเหลื่อมล้ำทางเพศเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกระทบกับภาคธุรกิจที่ผู้หญิงมีเกี่ยวข้องและมีอิทธิพลโดยตรง ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมการค้าปลีก
โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า ภาวะถดถอยในปัจจุบัน แตกต่างจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในอดีตผ่านมาซึ่งกระทบต่อผู้ชายมากกว่า
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า สามารถเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกที่มีความเท่าเทียมทางเพศ ด้วยการจ่ายเงินเดือนที่เพียงพอ การลงทุนเพิ่มขึ้นในโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแล (care infrastructure) และการเพิ่มอำนาจของผู้หญิงในวงการการเมือง
นอกจากนี้ รัฐบาลจะต้องออกนโยบายที่สนับสนุนการกลับมาทำงานของผู้หญิง และนโยบายด้านการพัฒนาความสามารถของผู้หญิงในอุตสาหกรรมแห่งยุคอนาคต
ทั้งนี้ การวิจัยดังกล่าว ได้ให้คะแนนทวีปต่างๆ ในแง่ของความก้าวหน้าในเส้นทางสู่ความเท่าเทียมทางเพศ โดยอเมริกาเหนือและยุโรปครองแชมป์ โดยสามารถปิดช่องว่างระหว่างเพศได้ มากกว่า 76% ตามมาด้วย ละตินอเมริกาและแคริบเบียนที่ 72.6% เอเชียกลางที่ 69.1% และเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ที่ 69% โดยเอเชียใต้รั้งท้ายอยู่ 62.4% ในปี 2565
นอกจากนี้ยังได้แจกแจงเป็นรายประเทศ โดยไอซ์แลนด์ครองแชมป์ประเทศที่มีความเท่าเทียมทางเพศมากที่สุด โดยสามารถปิดช่องว่างระหว่างเพศได้มากกว่า 90% ตามมาด้วย ฟินแลนด์ นอร์เวย์ นิวซีแลนด์ และสวีเดน
อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาระบุว่า ไม่มีประเทศใดที่มีความเท่าเทียมกันทางเพศโดยสมบูรณ์
กรมพัฒน์ฯ X Macroปั้นหลักสูตร ‘Smart Restaurant Plus 4’ ยกระดับธุรกิจร้านอาหารด้วยเทคโนโลยีติดปีกผู้ประกอบการคนตัวเล็ก
ดอน นาครทรรพ เชื่อเศรษฐกิจไทยปีหน้ายังไปได้ต่อ แต่ต้องเฝ้าระวัง 3 เรื่อง ค่าเงินบาท-ดอกเบี้ย-เงินเฟ้อ
ลาออกจาก ปชป. อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศไม่ลงแข่งขันหัวหน้าพรรค ปชป. พร้อมประกาศลาออกจากสมาชิกพรรคในที่ประชุม
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม