
‘บิ๊กตู่’ หาเสียงกรุงเทพ ชี้เงินดิจิทัลทำบางประเทศล้มไปแล้ว เงินลอย ๆ จะพูดเท่าไรก็ได้
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ปราศรัยหาเสียงครั้งแรกบนเวทีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ณ บริเวณลานอัฒจันทร์กลางแจ้ง สวนเบญจกิติ
โดยพลเอก ประยุทธ์เริ่มปราศรัยด้วยการกล่าวขอบคุณทุกคนที่มาเข้าร่วม ย้ำว่ากรุงเทพฯเป็นหน้าบ้านของประเทศไทยและเป็นมหานครแห่งหนึ่งของโลก เรามีอารยธรรมมายาวนาน ที่สำคัญที่สุด เรามีรอยยิ้ม เขาเรียกว่ายิ้มสยามนี่คือเสน่ห์ของคนไทยคนกรุงเทพฯ เราต้องไม่ทะเลาะกัน ใครมาเหยียบย่ำใครมาทำลายไม่ได้ เหมือนที่เรารักประเทศของเรา รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราจะต้องเป็นคนที่เผ็ดร้อน ในการที่จะป้องกันแกนหลักของประเทศไทยไว้ให้ได้ทั้ง 3 ส่วนเราควรจะภูมิใจใช่ไหม
อีกทั้งยังกล่าวเชิญชวนให้ช่วยกันเชิญชวนเพื่อนบ้านให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ทุกคนต้องมาใช้สิทธิ์ร่วมกัน ในการที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทย
พลเอก ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ปีนี้ทุกคนจะได้ฉลองสงกรานต์กันอย่างสนุกสนานหลังจากอัดอั้นกันมา 2 ปี ต่างชาติก็รอมาเที่ยวไทย นำมาซึ่งรายได้จำนวนมาก ขอให้ทุกคนต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ดี
จากนั้น พลเอก ประยุทธ์กล่าวถึงภาวะผู้นำ โดยยกถึงการบริหารประเทศในช่วงโควิด-19 นำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติได้เร็วที่สุด มีคนเข้าประเทศเราแล้วถึง 10 ล้านมีรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังกล่าวว่า ทุกประเทศเขาเลือกผู้นำที่ให้ความสำคัญกับความมั่นคง ถ้าประเทศชาติไม่มั่นคงแล้ว มันจะมั่งคั่งได้อย่างไร ใครจะกล้ามาลงทุน
“ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งความสงบสุข” พลเอก ประยุทธ์กล่าวย้ำ ก่อนที่จะทิ้งท้ายไว้ว่า “ใครจะทำอะไรกับผมก็ไม่เป็นไรหรอก ผมพร้อมที่จะรับทุกอย่าง ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี รับผิดชอบให้อยู่แล้ว”
และหลังจบการปราศรัย พลเอก ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนว่า ผมพูดในสิ่งที่มีความเป็นไปได้และเป็นสิ่งที่มาจากใจพูดในสิ่งที่ทำโครงสร้างไว้ทั้งหมดแล้วและต้องทำต่อไป และเป็นสิ่งที่ตนตั้งใจไว้แล้วว่า ทำแล้ว ทำอยู่ และทำต่อ ต่อไปคือพลัส คือทำต่อไปอีก และอาจมีเรื่องใหม่ๆ เข้ามา แต่เราต้องเดินหน้าอย่างระมัดระวังเพราะวันนี้เราก้าวมาไกลแล้ว จะกลับไปที่เดิมอีกไม่ได้
ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ผมทำอะไรคนเดียวไม่ได้ต้องมีทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้นั่นเป็นแรงใจในการทำงานร่วมกัน เชื่อมั่นและไว้วางใจซึ่งกันและกัน เราต้องตอบคำถามให้ได้ว่าการจะเป็นรัฐบาล เราทำเพื่อใคร บอกว่าทำเพื่อประชาชนอย่างเดียวไม่พอ เราต้องทำเพื่อชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ทำให้ทุกคนมีความสุขและมีความพึงพอใจ มาตรการต่างๆในการช่วยเหลือเรามีอยู่แต่ต้องระมัดระวังอย่างที่สุดในการใช้จ่ายงบประมาณ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเข้าใจผิด ถ้าเราทำหลายอย่างผิดไปโครงสร้างจะล้มทั้งหมด ทุกอย่างจะพังทลายทันที”
สำหรับประเด็นเงินดิจิทัล พลเอก ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ผมเคยเตือนเอาไว้แล้วว่าเงินดิจิทัลเป็นเงินที่จับต้องไม่ได้ แต่เป็นเงินที่ตกลงซึ่งกันและกัน และก็รู้ถึงที่มาของเงิน ที่ใช้บล็อกเชนเป็นตัวควบคุม ไม่มีตัวเงินที่แท้จริง แต่ก็จะเห็นว่าบางประเทศก็ล้มไปทั้งยวง ธนาคารก็ลงทั้งหมด ต้องระมัดระวังอย่างที่สุด เพราะไม่ว่าจะใช้เงินลักษณะใดก็ตามจะต้องมีเม็ดเงินจริงอยู่เสมอ พูดลอย ๆเท่าไหร่ก็ได้ แต่มันมีงบประมาณที่อยู่ในคลังมีเงินสำรองอยู่ในคลังพอหรือเปล่า ถ้าไม่พอมันเสี่ยง ส่วนตัวคิดว่าเรื่องแบบนี้ต้องระวังอย่างที่สุด การใช้งบประมาณต้องไม่ผิดระเบียบและไม่ผิดกฎหมาย
เมื่อนักข่าวถามถึงนโยบายขายฝันของพรรคอื่น พลเอก ประยุทธ์กล่าวว่า ประชาชนต้องไปอ่านข้อมูลข้อเท็จจริง และบางเรื่องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ชี้แจงมาแล้ว และเรื่องเงินต่าง ๆ ธปท.และกระทรวงการคลัง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ชี้แจงมาแล้ว ก็ขอให้ระมัดระวัง ว่าจะเป็นการหาเงินเข้ากระเป๋า 10,000 บาท ที่บางพรรคหาเสียงก็ต้องระมัดระวัง ซึ่งมีหลายฝ่ายออกมาเตือนแล้ว แต่เราจะไปห้ามประชาชนคงไม่ได้