
จีนเปิดตัว ‘คู่มือความมั่นคงโลก’ พร้อมประณามความคิดแบบสงครามเย็น การแบ่งขั้วอำนาจโลกและการจัดฉากปฏิวัติสี ผ่านวาทกรรม ‘การส่งเสริมประชาธิปไตย’
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 กระทรวงการต่างประเทศจีนได้เปิดตัวเอกสารคู่มือแนวคิดด้านความมั่นคงโลก (Global Security Initiative Concept Paper) ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ ‘การป้องกันความขัดแย้ง’ และ ‘ส่งเสริมความมั่นคงของโลก’ พร้อมประณามการใช้มาตรการ ‘คว่ำบาตร’
เอกสารดังกล่าวอาศัยแนวคิดและหลักการสำคัญหลายประการที่จะช่วยให้ทั้งจีนและประชาคมระหว่างประเทศสามารถกำหนดท่าทีใน “ยุคที่เต็มไปด้วยความท้าทาย” ได้
เอกสารนี้ให้ความสำคัญกับการจัดการความมั่นคงโดยมีสหประชาชาติเป็นศูนย์กลาง โดยระบุว่า “ความคิดแบบสงครามเย็น ลัทธิเอกภาคีนิยม การเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มขั้วอำนาจและลัทธิเจ้าโลก ถือเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับเจตนารมณ์ของกฎบัตรสหประชาชาติ และจำเป็นต้องถูกต่อต้านและปฏิเสธ”
เอกสารยังระบุว่า ประเทศต่างๆ ควรยึดถือฉันทามติที่ว่า “สงครามนิวเคลียร์ไม่มีผู้ชนะ และเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น” มหาอำนาจนิวเคลียร์ควรเสริมสร้างการเจรจาและความร่วมมือเพื่อลดความเสี่ยงของการเผชิญหน้าทางนิวเคลียร์
พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึง “ข้อกังวลด้านความปลอดภัยของทุกประเทศอย่างจริงจัง” แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเคารพในอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของแต่ละประเทศ
นอกจากนี้ เอกสารดังกล่าวยังได้เรียกร้องให้แก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศผ่านทางการทูตเท่านั้น โดยระบุว่า “สงครามและการคว่ำบาตรไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาข้อพิพาท มีเพียงการเจรจาและการปรึกษาหารือเท่านั้นที่มีประสิทธิผลในการแก้ไขข้อพิพาท” พร้อมชี้ว่า “การใช้มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา มีแต่จะทำให้ปัญหามีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น”
ฉิน กัง (Qin Gang) รมว.ต่างประเทศจีน กล่าวว่าแนวคิดดังกล่าว มุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างและเป็นมิตรต่อทุกประเทศที่ต้องการมีอนาคตร่วมกัน
แผนความมั่นคงโลก (Global Security Initiative) ได้รับการหยิบยกขึ้นเป็นครั้งแรกโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในฐานะวิธีการที่จะ “รักษาหลักการของความมั่นคงที่ไม่อาจแบ่งแยกได้”
การเผยแพร่เอกสารดังกล่าว เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่จีนเผยแพร่รายงานเรื่อง “ความเป็นเจ้าโลกของสหรัฐฯ และภัยอันตราย” ซึ่งมีเนื้อหาที่ตำหนิรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยกระดับการแข่งขันของมหาอำนาจทั่วโลก, รวมถึงการจัดฉากการปฏิวัติสี (color revolutions) และจุดชนวนความตึงเครียดในภูมิภาค ภายใต้หน้ากากของ ‘การส่งเสริมประชาธิปไตย’
#TheStructureNews
#US #China