อดีตเลขาฯ ก.พัฒนาเมืองสหรัฐ ถล่ม ‘ฝ่ายซ้าย’ กรณีเปลี่ยนเนื้อเพลงคริสต์มาส ให้กลายเป็นสนับสนุนกลุ่ม Woke แทน

ดร.เบ็น คาร์สัน อดีตเลขาธิการกระทรวงการเคหะและพัฒนาเมืองสหรัฐ (HUD) กล่าวโจมตีคริสตจักร Saints Church in Loughborough ในสหราชอาณาจักร ที่เปลี่ยนเนื้อเพลง “God Rest Ye Merry, Gentlemen” โดยเปลี่ยนตัดคำว่า “Gentleman” (สุภาพบุรุษ) ออกแล้วไปใช้คำว่า “Queer” (คนไม่ระบุเพศ) แทน และเปลี่ยนเนื้อเพลงเป็นอีกแบบหนึ่งเลย 

จากเนื้อเพลงเดิมคือ “พระเจ้าทรงให้ความสงบใจ ไม่ให้มีสิ่งใดมาทำให้เราท้อแท้ เพราะพระเยซูคริสต์ ผู้ช่วยให้รอดของเรา ประสูติในวันนี้ ในวันคริสต์มาส เพื่อช่วยให้เราทั้งหลายพ้นภัยจากอำนาจของซาตาน ในยามที่เราหลงทาง”

ส่วนเนื้อเพลงใหม่เป็นดังนี้ “พระเจ้าทรงให้ความสงบใจ กับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศและกำลังตั้งคำถาม ขอให้จิตใจอันว้าวุ่นของท่านพบความสงบสุข พระเจ้ายังทรงให้ความสงบใจแก่เหล่าสตรี ผู้ที่ถูกลบเลือนมาตลอดโดยบุรุษเพศ ตลอดหน้าประวัติศาสตร์ของการถูกเพิกเฉย ดูหมิ่น ทำให้มัวหมอง และทำให้เป็นอื่น”

“God rest you queer and questioning, your anxious hearts be still. God rest you also, women, who by men have been erased. Through history ignored and scorned, defiled and displaced,”

โดยคาร์สัน ระบุถึงเรื่องนี้ว่า “ผมเคยพูดเป็นครั้งแรกที่เกี่ยวกับเรื่องความถูกต้องทางการเมือง (Politic Correctness) ตั้งแต่ปี 1997 ว่าหากเรายังคงดำเนินตามเส้นทางแบบนี้ต่อไป มันจะทำลายประเทศของเรา” “ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมามันทวีความรุนแรงและเลวร้ายลงเรื่อยๆ และตอนนี้มันได้แปรเปลี่ยนจากแนวคิดเดิมไปเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘ความตื่นรู้’ (wokeness) ไปแล้ว”

คาร์สัน กล่าวต่อไปว่า “ปัจจุบันในสหรัฐฯ ปัญหาเรื่องนี้มันเลวร้ายเสียจนนักศึกษาในระดับวิทยาลัย ‘กลัวที่จะแสดงออก’ โดยเฉพาะคนที่มีความคิดไปในแนวอนุรักษ์นิยม ทั้งๆ ที่วิทยาลัยควรเป็นสถานที่ที่นักศึกษาสามารถทำการสำรวจ ควรเป็นสถานที่ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถหารือเกี่ยวกับบางสิ่ง เพื่อที่จะทำการตัดสินใจได้ว่าจะดำเนินชีวิตไปในทิศทางใด แต่สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันคือผู้คนต่างถูกปิดกั้น”

“เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของผู้คนกำลังถูกปิดกั้น ไม่ว่าจะโดยบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่, โซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่อาจารย์ในวิทยาลัยที่เรียกตัวเองว่า ‘พวกหัวก้าวหน้า’ ซึ่งหากรัฐบาลไม่จัดการกับเรื่องนี้และยังนิ่งเฉยอยู่ต่อไป ก็เท่ากับว่าพวกเขาสนับสนุนสิ่งเหล่านี้ และชาวอเมริกันควรจะโกรธรัฐบาลในเรื่องนี้”

“คำประกาศอิสรภาพแห่งสหรัฐ ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ‘เสรีภาพของเรามาจากพระเจ้า’ แต่ถึงกระนั้น ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงตามแนวทาง ‘Woke’ เสรีภาพนั้นก็ถูกพรากไปจากเราเรื่อยๆ”

“เรายังมีรัฐบาลที่แฝงตัวเข้ามาควบคุมชีวิตของเราในทุกด้าน ทั้งที่เสรีภาพและความเป็นชุมชนควรหมายถึงการที่ประชาชนสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างเสรี ไม่ใช่รัฐบาลเข้าครอบงำพวกเรา” คาร์สัน กล่าว 

พร้อมเสริมว่า “อเมริกามีพลวัตรและพลังแห่งความสร้างสรรค์เนื่องจากเป็นประเทศที่มีความหลากหลาย ดังนั้นหากทุกคนคิดแบบเดียวกันและพูดแบบเดียวกัน ก็จะไม่มีการคิดนอกกรอบที่นำพาสหรัฐฯ มาสู่การเป็นผู้นำความหวังของโลกอย่างที่ผ่านมา”